ผมร่วง ผมบาง เป็นปัญหากวนใจที่ใครหลายคนอยากแก้ไขให้ตรงจุด บางคนจึงเลือกวิธีการปลูกผมเพื่อเพิ่มความหนาแน่นของเส้นผมที่ได้ผลลัพธ์สวยงามและเป็นธรรมชาติ แต่หลังการปลูกผมสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือการดูแลและบำรุงผมที่ปลูกใหม่อย่างถูกวิธี เพื่อให้เส้นผมใหม่เติบโตได้แข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย ซึ่งแพทย์ผู้ชำนาญการมักแนะนำให้รับประทานยา Minoxidil และยา Finasteride ที่เป็นตัวช่วยสำคัญในการบำรุงดูแลเส้นผมได้ลึกถึงภายใน เพราะนอกจากจะช่วยกระตุ้นการงอกของผมใหม่แล้ว ยังช่วยชะลอการหลุดร่วงของผมได้อีกด้วย แต่ยาทั้ง 2 ชนิดนี้มีกลไกการทำงานอย่างไร เหมาะกับใครบ้าง และมีข้อควรระวังอะไรบ้าง ที่ควรให้ความสำคัญ เรามาทำความเข้าใจพร้อมๆ กันเลย
หลังปลูกผม แพทย์มักแนะนำให้กินยา Minoxidil และ Finasteride เพื่อเหตุผลสำคัญ ดังนี้
ช่วยเร่งให้ผมใหม่งอกเร็วขึ้น ยาทั้ง 2 ตัวจะไปช่วยกระตุ้นปลายเส้นผมและรากผมที่ปลูกใหม่ให้เข้าสู่วัฏจักรการเติบโตใหม่ได้เร็วขึ้น ทำให้ผมงอกเร็วกว่าปกติ
ป้องกันผมใหม่หลุดร่วง ตัวยาจะไปกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่ ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผมหลุดร่วง จึงทำให้ผมใหม่แข็งแรงและมีโอกาสเติบโตได้นานขึ้น
เพิ่มความหนาของเส้นผม โดยเฉพาะตัวยา Minoxidil จะช่วยให้ผมใหม่มีเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่ขึ้น และช่วยให้ผมดูหนาแน่นขึ้นกว่าเดิม
เพิ่มปริมาณผมใหม่ ทั้งตัวยา Minoxidil และยา Finasteride จะช่วยกระตุ้นให้ผมงอกได้มากขึ้น ทำให้จำนวนเส้นผมใหม่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน
Minoxidil เป็นยาที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ให้ใช้รักษาผมร่วงได้ในทั้งผู้ชายและผู้หญิง ยานี้มีกลไกการออกฤทธิ์ในการขยายหลอดเลือดบริเวณหนังศีรษะ ทำให้มีปริมาณเลือดและสารอาหารมาหล่อเลี้ยงรากผมได้มากขึ้น ส่งผลให้ผมมีการงอกใหม่เพิ่มขึ้นถึง 70% ของผู้ใช้ยา โดยจะมีประสิทธิภาพดีที่สุดในการรักษาผมบางบริเวณกระหม่อม และศีรษะด้านบนในเพศชาย ยา Minoxidil มีทั้งแบบรับประทานเป็นยาเม็ดและแบบยาทาภายนอก ซึ่งแพทย์มักจะแนะนำให้ใช้แบบทาภายนอกร่วมกับการปลูกผมมากกว่า เนื่องจากมีผลข้างเคียงน้อยกว่าและผู้ป่วยสะดวกในการใช้มากกว่านั่นเอง แต่ควรใช้อย่างสม่ำเสมอตามที่แพทย์สั่ง
Finasteride เป็นยากลุ่ม 5 Alpha Reductase inhibitor ที่ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ 5 Alpha Reductase ไม่ให้เปลี่ยนฮอร์โมน Testosterone ไปเป็นฮอร์โมน DHT ซึ่ง DHT นี้จะเป็นฮอร์โมนตัวการที่ทำให้รากผมเสื่อมและเส้นผมเล็กลง ทำให้เส้นผมหลุดร่วงได้ง่าย ดังนั้น การกินยา Finasteride จึงเป็นการช่วยลดระดับของ DHT และช่วยบำรุงรากผมได้ในเวลาเดียวกัน
ทั้งนี้ยา Finasteride มีประสิทธิผลที่พิสูจน์แล้ว ในการรักษาผมบางศีรษะและผมร่วงบริเวณกระหม่อมในผู้ชายได้ถึง 80-90% และสามารถช่วยให้ผมกลับมางอกใหม่เพิ่มขึ้นได้ด้วย
เมื่อแพทย์แนะนำให้ใช้ยา Minoxidil และ Finasteride ร่วมกับการปลูกผม สิ่งสำคัญคือการใช้ยาในขนาดและปริมาณที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของยาในการช่วยกระตุ้นการงอกใหม่และชะลอการหลุดร่วงของเส้นผม
ยา Minoxidil สำหรับใช้ภายนอกมีให้เลือกหลายรูปแบบ เช่น โฟม โลชั่นน้ำ และสเปรย์ โดยมีความเข้มข้นของตัวยาอยู่ที่ 2% และ 5% ในทางปฏิบัติ สำหรับผู้ชายที่มีผมบางเริ่มต้น มักเลือกใช้ยาเข้มข้น 5% เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมได้ดีกว่า
วิธีใช้ คือ ใช้วันละ 2 ครั้ง โดยหยดหรือฉีดพ่นยาลงบนหนังศีรษะบริเวณที่อยากให้ผมงอกใหม่ ประมาณ 1 มล. ต่อครั้ง (20-25 หยด) แล้วนวดเบาๆ ให้ยาซึมซาบลงสู่รากผม ควรใช้อย่างสม่ำเสมอทุกวันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
จะเริ่มเห็นผลหลังใช้ไปแล้ว 4-6 เดือน และควรใช้ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เพราะถ้าหยุดใช้เมื่อไหร่ เส้นผมที่เกิดใหม่ก็จะเริ่มบางลงและหลุดร่วงได้อีก จนกลับสู่สภาพเดิมได้ **ซึ่งควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
ยา Finasteride เป็นตัวยาในรูปแบบยารับประทาน ขนาดที่แนะนำเพื่อใช้รักษาผมบางผมร่วง คือ 1 มก. รับประทานวันละ 1 ครั้ง ซึ่งเพียงพอต่อการออกฤทธิ์ช่วยลดฮอร์โมน DHT ที่ทำให้ผมร่วงได้ดี ไม่จำเป็นต้องเพิ่มขนาดยา เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียงโดยไม่จำเป็น **ซึ่งควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
ตัวยานี้จะค่อยๆ แสดงผลหลังใช้ไปอย่างน้อย 3-6 เดือน และจะเห็นผลชัดเจนสุดที่ประมาณ 1 ปี และยังช่วยชะลอการบางลงของเส้นผมได้ด้วย แนะนำให้ใช้ต่อเนื่องเพื่อคงผลการรักษาที่ยาวนาน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้รักษาจะเป็นผู้พิจารณาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย
ผมอาจจะร่วงมากขึ้นในช่วง 2-6 สัปดาห์แรกของการใช้ยา ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการใช้ยานี้ เพราะเป็นผลของยาที่ไปเร่งการผลัดรอบของเส้นผม แต่หลังจากนั้นเส้นผมจะค่อยๆ งอกใหม่ และหลุดร่วงน้อยลงได้เอง
บางคนอาจมีผิวหนังอักเสบ คัน แดง เป็นผื่น ระคายเคืองบริเวณที่ทายา แนะนำให้ใช้ปริมาณยาที่ถูกต้อง เริ่มต้นจากความเข้มข้นต่ำๆ ใช้เคมีให้น้อยลง และหยุดใช้ยาทันทีถ้าอาการรุนแรง
อาจมีขนขึ้นผิดที่ผิดทาง เช่น ที่แก้ม ที่หน้าผาก ถ้าหากพบอาการผิดปกติต้องหยุดใช้ทันที หรือปรึกษาแพทย์ก่อนจะใช้ยาต่อ
บางรายอาจมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น เวียนหัว ปวดศีรษะ มือเท้าบวม ใจสั่น หากมีอาการผิดปกติต้องหยุดใช้ยาทันที และรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาได้ทันท่วงที
อาจเกิดภาวะซึมเศร้า หรือความวิตกกังวลได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติโรคซึมเศร้ามาก่อน
อาจมีอาการเกี่ยวกับระบบเพศชาย เช่น ลดความต้องการทางเพศ หรือหย่อนสมรรถภาพทางเพศ แต่จะค่อยๆ ดีขึ้นได้หลังหยุดยา
อาจทำให้ปริมาณน้ำอสุจิลดลง และอาจมีอาการปวดถ่วงที่อัณฑะร่วมด้วย
บางคนอาจมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ มีไข้ อ่อนเพลีย มีผื่นคันจากการแพ้ยา ควรหยุดทานยาทันที
มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมในผู้ชาย โดยเฉพาะคนที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม หรือพบก้อนที่เต้านม ต้องแจ้งแพทย์ก่อนใช้ยานี้
ห้ามใช้ในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ คุณแม่ให้นมบุตร หรือผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ ซึ่งมีแผนที่จะตั้งครรภ์ เพราะยา Finasteride อาจส่งผลให้ทารกในครรภ์มีความผิดปกติเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ หรือภาวะเพศกำกวม (Ambiguous genitalia)
มีผลข้างเคียงทำให้ค่าการทำงานของตับผิดปกติได้ ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคตับ และผู้ที่มีความผิดปกติในการทำงานของตับ
ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชนิดใดชนิดหนึ่ง หรือประวัติแพ้ส่วนประกอบของยา
ผู้ที่มีปัญหาความดันโลหิตต่ำ และโรคหัวใจ
ผู้ป่วยที่เคยติดเชื้อราที่หนังศีรษะ
ผู้ที่มีแผลเปิดหรือแผลผ่าตัด ไม่ควรทายา Minoxidil บริเวณนั้น
ผู้ป่วยโรคตับ และความผิดปกติของการทำงานของตับ ไม่ควรใช้ยา Finasteride
ผู้หญิงตั้งครรภ์ และผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ที่มีโอกาสตั้งครรภ์ ห้ามใช้ทั้งยา Minoxidil และยา Finasteride เด็ดขาด
ยา Minoxidil และยา Finasteride เป็นยาที่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้ชำนาญการอย่างใกล้ชิด การใช้ยาทั้ง 2 ตัวนี้จะต้องคอยสังเกตอาการและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างละเอียด ถ้ามีความผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นระหว่างใช้ยา ต้องหยุดใช้และรีบปรึกษาแพทย์ทันที การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดจะช่วยให้ใช้ยาได้อย่างปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการปลูกผม
บทความที่เกี่ยวข้อง
ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ติดต่อจองคิวได้ที่นี่เลย!
สาขาสยามสแควร์ ซอย 2 | โทร: 095-406-9423 / 095-406-9424
สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น 3 | โทร: 088-693-0532
สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 7 | โทร: 080-245-7886
สาขา ONE BANGKOK ชั้น 4 | โทร: 095-369-9668
สอบถามข้อมูลปลูกผมเพิ่มเติม
Tel: 02-001-3530-1
Facebook: HairCliniquebySLC
Line: @HairCliniquebySLC