ลดปัญหาผมร่วง ผมบางได้ตรงจุดด้วยโปรแกรม Hair Booster บูสต์ผมหนาดูสุขภาพดี!
25 พ.ย. 2567 16:15 น.
ลดปัญหาผมร่วง ผมบางได้ตรงจุดด้วยโปรแกรม Hair Booster บูสต์ผมหนาดูสุขภาพดี!

ผมร่วง ผมบาง แต่ยังไม่พร้อมที่จะปลูกผม ทำยังไง?

สำหรับในปัจจุบันนี้มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีมากมายที่มาเป็นตัวช่วยในการแก้ปัญหาเรื่องเส้นผมและหนังศีรษะ ซึ่งปัญหาผมร่วง ผมบางในคนอายุน้อยมีเพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก โดยมีสาเหตุมาจากความเครียดสูงที่เป็นการรบกวนการเจริญเติบโตของเส้นผม นอกจากนี้ยังมีโภชนาการที่ขาดสมดุลโดยเฉพาะกลุ่มคนที่รับประทานมังสวิรัติหรืออาหารวีแกน ที่ส่งผลให้ขาดสารอาหารที่จำเป็น เช่น โปรตีนและสังกะสี ยิ่งไปกว่านั้นในปัจจุบันนี้คนเราชอบทำสีผม จัดแต่งทรงผมด้วยความร้อนสูง และจัดแต่งทรงผมที่ทำให้เกิดการรัดแน่น ส่วนนี้สะท้อนไลฟ์สไตล์และสภาวะจิตใจของคนรุ่นใหม่ที่ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพและส่งผลให้เกิดอาการผมร่วงและผมบางได้ นอกจากนี้ยังมีอาการผมร่วงผมบางที่เกิดจากฮอร์โมนของร่างกายและกรรมพันธุ์อีกด้วย ปัญหาเหล่านี้ส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก แล้วหากว่าอยากจบปัญหาเหล่านี้ แต่ยังไม่พร้อมที่จะปลูกผม แล้วจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ยังไงมาดูกันเลย!

การทำงานของฮอร์โมน DHT สาเหตุผมร่วงผมบาง

บูสต์ บูสต์ บูสต์… บูสต์ผมหนา ฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาแข็งแรง

นวัตกรรมใหม่ที่จะช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตให้แก่เส้นผม ช่วยลดปัญหาผมร่วง ผมบาง ผมอ่อนแอด้วยโปรแกรม Hair Booster ซึ่งใช้หลักการระบบฟื้นฟูผม Hair Restoration Systems (HRS) ที่เป็นการรักษาโดยเน้นการทำงานยับยั้งเอนไซม์ 5-alpha-reductase ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนแปลงฮอร์โมน Testosterone ให้กลายเป็นฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) ทั้งในกระแสเลือดและในเนื้อเยื่อ เนื่องจาก DHT ทำให้รูขุมขนหดตัว จึงเป็นสาเหตุหลักที่ส่งผลให้เกิดผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน และส่งผลให้รากผมอ่อนแอทั้งในผู้ชายและผู้หญิงบางกลุ่มที่อาจมีระดับฮอร์โมน DHT สูง จึงส่งผลให้เกิดปัญหาผมร่วง ผมบาง ยิ่งในผู้หญิงที่มีภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล เช่น ผู้ที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือน ผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิดบางชนิด ผู้ที่มีภาวะถุงน้ำในรังไข่ (PCOS) และผู้ที่มีความเครียดเรื้อรัง ก็จะเกิดปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านมากกว่าในผู้หญิงกลุ่มอื่น
 
โปรแกรม Hair Booster คือ นวัตกรรมการบำรุงชั้นลึกที่ใช้วิธีการฉีดยาเข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนังบริเวณรากผมที่ผสานสารสกัดจากตัวยาและส่วนผสมต่างๆ ที่ช่วยยับยั้ง DHT ได้อย่างรวดเร็ว เช่น Minoxidil, Mesotherapy Agents, Azelaic Acid, Zinc, Pyridoxine, D-Panthenol, Biotin, Antioxidants, Ginkgo Biloba และ Herbal Extracts ส่วนผสมเหล่านี้จึงช่วยลดปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านได้ ตัวยาจะเข้ามาช่วยฟื้นฟูเส้นผมและหนังศีรษะ ช่วยกระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผม เซลล์รากผมกลับมาแข็งแรงขึ้น ช่วยปรับสมดุลให้หนังศีรษะได้อย่างล้ำลึก และยังช่วยลดอาการผมขาดหลุดร่วงได้ดี โปรแกรม Hair Booster จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับคนที่ยังไม่พร้อมที่จะปลูกผม แต่อยากได้ผมหนาดูดกดำและมีสุขภาพดี แถมเจ็บตัวน้อย ไม่ต้องพักฟื้นนาน และไม่ต้องทำการผ่าตัดด้วย 

ผสานพลังส่วนผสมอันทรงคุณค่า โปรแกรม Hair Booster ลดปัญหาผมร่วงผมบางได้อย่างตรงจุด

ส่วนผสมของ Hair Booster
  • Minoxidil เป็นตัวยาที่ได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์มาแล้วว่าสามารถกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผมได้ ทั้งยังมีหลักการทำงานที่เข้าไปช่วยขยายหลอดเลือดในหนังศีรษะ จึงสามารถกระตุ้นการผลิตเส้นผมใหม่บนหนังศีรษะได้ดี นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังรากผม จึงช่วยยืดระยะการเจริญเติบโตของเส้นผมได้
  • MesoAge เมโสจะประกอบไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระที่จะเข้าไปช่วยปรับสมดุลให้หนังศีรษะ ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้รากผม และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผมและหนังศีรษะได้ดียิ่งขึ้น 
  • Zinc เป็นส่วนผสมที่มาช่วยยับยั้งเอนไซม์ 5-alpha-reductase จึงมีส่วนในการขัดขวางการผลิตฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) ที่ความเข้มข้นสูงสามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ทำให้ผมร่วงได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด
  • กรดอะเซลิก (Azelaic Acid) เป็นสารที่ช่วยกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม ซึ่งมีประสิทธิภาพในการยับยั้งเอนไซม์ 5-alpha-reductase ชนิดที่ 1 ซึ่งมีผลในการลดการผลิต DHT
  • Pyridoxine (วิตามิน B6) เป็นวิตามินละลายน้ำที่ทำหน้าที่โคแฟกเตอร์ของเอนไซม์หลายชนิดในร่างกาย มีส่วนช่วยในการรักษาผมร่วง เข้าไปช่วยเสริมประสิทธิภาพในการยับยั้งเอนไซม์ของ Zinc และยังเข้าไปช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมได้

โปรแกรม Hair Booster เหมาะกับใครบ้าง?

Hair Booster เหมาะกับใครบ้าง
  • ผู้ที่มีเส้นผมอ่อนแอ ผมแห้งเสีย หรือผมแตกปลาย
  • ผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบางจากกรรมพันธุ์
  • ผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบางจากความเครียดและฮอร์โมน
  • ผู้ที่ต้องการฟื้นบำรุงเส้นผมหลังจากการทำเคมี เช่น การย้อมสีผมหรือการดัดผม
  • ผู้ที่ต้องการป้องกันปัญหาผมร่วงในอนาคตและรักษาสุขภาพของเส้นผม

ปรึกษาฟรี ฉีด Hair Formula Shot™ คลิกเลย

จุดเด่นของโปรแกรม Hair Booster ฟื้นบำรุงเส้นผมอ่อนแอ ให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง

จุดเด่นของ Hair Booster
  • ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่ : โปรแกรม Hair Booster จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดบริเวณหนังศีรษะ ช่วยให้รากผมได้รับสารอาหารและออกซิเจนได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้เส้นผมงอกใหม่แข็งแรงและหนาแน่นขึ้น
  • ลดปัญหาผมร่วงอย่างมีประสิทธิภาพ : โปรแกรม Hair Booster จะช่วยฟื้นฟูรากผมที่อ่อนแอและยังช่วยชะลอการหลุดร่วงของเส้นผม จึงเป็นโปรแกรมที่เหมาะกับปัญหาผมร่วงจากพันธุกรรม
  • บำรุงได้ล้ำลึกถึงรากผม : ส่งตรง Hair Booster เข้าสู่รากผม จึงช่วยให้สารอาหารต่างๆ ซึมซาบได้ล้ำลึกและมีประสิทธิภาพ
  • ปรับสมดุลหนังศีรษะ : โปรแกรม Hair Booster ช่วยปรับสมดุลให้หนังศีรษะและเส้นผม ช่วยลดความมันบนหนังศีรษะ และยังสามารถลดปัญหารังแค ลดการระคายเคืองบนหนังศีรษะได้ดี
  • ยับยั้งฮอร์โมน DHT : โปรแกรม Hair Booster จะช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ 5-alpha-reductase ซึ่งจะช่วยลดการผลิต DHT (Dihydrotestosterone) ที่เป็นสาเหตุของปัญหาผมร่วง ผมบาง
  • ปลอดภัยไม่ต้องพักฟื้น : เป็นการรักษาผมร่วงผมบางแบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีแผลใหญ่ อีกทั้งยังไม่มีผลข้างเคียง ช่วยให้เส้นผมกลับมาแข็งแรงได้ทันทีหลังการรักษา
  • เหมาะกับทุกเพศทุกวัย : ไม่ว่าจะมีปัญหาเรื่องผมร่วง ผมบางจากความเครียด หรือจากกรรมพันธุ์ โปรแกรม Hair Booster ก็สามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด

ขั้นตอนการทำโปรแกรม Hair Booster ลดผมร่วง เพิ่มผมหนา เส้นผมแข็งแรงสุขภาพดี

ขั้นตอนการทำ Hair Booster
  1. วิเคราะห์สภาพเส้นผมและหนังศีรษะ : แพทย์ทำการวิเคราะห์เส้นผมและหนังศีรษะ เพื่อวางแผนการบำรุงที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล
  2. ทำความสะอาดหนังศีรษะ : ก่อนการทำโปรแกรม Hair Booster จะทำความสะอาดหนังศีรษะ เพื่อช่วยให้สารบำรุงสามารถดูดซึมได้ดี และช่วยลดอาการระคายเคืองได้
  3. ฉีด Hair Booster เข้าสู่รากผม : แพทย์ใช้เข็มขนาดเล็กฉีดสารบำรุงโปรแกรม Hair Booster ตรงเข้าสู่รากผม เพื่อช่วยฟื้นบำรุงได้จากภายใน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีแผล มีอาการเจ็บน้อย และใช้เวลาไม่นาน
  4. นวดหนังศีรษะเบาๆ : ทำการนวดหนังศีรษะเบาๆ หลังจากการฉีด เพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของสารบำรุง และช่วยให้สารบำรุงสามารถกระจายตัวได้ดียิ่งขึ้น
  5. ให้คำแนะนำหลังการฉีด : แพทย์ให้คำแนะนำเรื่องการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะหลังจากการฉีด
  6. ติดตามผลและนัดเข้ามารับการรักษาซ้ำ : เพื่อการเห็นผลที่ชัดเจนและยาวนาน แพทย์จะทำการแนะนำให้เข้ามารับบริการซ้ำตามความเหมาะสม ซึ่งจะแนะนำให้ทำทุกๆ 2-4 สัปดาห์ จากนั้นจะเห็นผลที่ชัดเจนขึ้นในช่วงตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป โดยแนะนำให้ทำติดต่อกันอย่างน้อย 2-3 เดือนขึ้นไป เพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืน

นวัตกรรมโปรแกรม Hair Booster มีหลักการทำงานอย่างไร?

โปรแกรม Hair Booster ที่ฉีดเข้าบริเวณหนังศีรษะที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือผมแห้งเสียไม่ว่าจะเกิดจากกรรมพันธุ์ หรือความเครียดและฮอร์โมน โดยเน้นการทำงานที่เข้าไปฟื้นฟูจากภายในส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นหลังจากฉีดแล้ว เมื่อฉีดเข้าไปบริเวณหนังศีรษะโดยตรงสู่รากผมจะช่วยให้สารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโน และสารสกัดจากธรรมชาติที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของเส้นผมถูกฉีดเข้าสู่ชั้นผิวหนังกลางของหนังศีรษะ จึงเข้าไปช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในบริเวณหนังศีรษะ ให้เส้นผมสามารถรับสารอาหารได้อย่างเต็มที่ รูขุมขนที่อ่อนแอและอยู่ในระยะพักตัวสามารถกลับเข้าสู่ระยะการเจริญเติบโตและงอกเส้นผมใหม่ที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้นได้ ทั้งยังมีส่วนช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ 5-alpha-reductase จึงมีส่วนในการขัดขวางการผลิตฮอร์โมน DHT ที่ส่งผลให้เกิดอาการผมร่วง ผมบางได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิงบางกลุ่มได้ นอกจากนี้ Hair Booster จะเข้าไปช่วยให้เส้นผมที่งอกใหม่มีความแข็งแรงและมีความหนาแน่นมากขึ้นด้วย หากอยากได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนยาวนาน แนะนำให้ทำโปรแกรม Hair Booster ทุกๆ 2-4 สัปดาห์ จากนั้นจะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป โดยแนะนำให้ทำติดต่อกันอย่างน้อย 2-3 เดือนขึ้นไป ก็จะได้ผมสวยดกดำเงางามกลับคืนมาอีกครั้ง 

หลักการทำงานของ Hair Booster

ผลลัพธ์ที่ได้หลังการทำโปรแกรม Hair Booster

  • เส้นผมมีความเงางามและนุ่มลื่น จัดทรงง่ายขึ้น
  • ผมขาดหลุดร่วงลดลงอย่างเห็นได้ชัด
  • เส้นผมงอกใหม่และมีความหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น
  • หนังศีรษะมีความสมดุลมากขึ้น ความมัน อาการหนังศีรษะแห้ง และการเกิดรังแคลดลง
 ผลลัพธ์ Hair Booster

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: การทำโปรแกรม Hair Booster มีผลข้างเคียงหรือไม่?
A: หลังการฉีดสารบำรุงโปรแกรม Hair Booster ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ  

Q: การทำโปรแกรม Hair Booster ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
A: แนะนำให้ทำโปรแกรม Hair Booster ทุกๆ 2 - 4 สัปดาห์ ติดต่อกันอย่างน้อย 2 - 3 เดือนขึ้นไป หรือควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับแผนการทำโปรแกรม Hair Booster ตามความเหมาะสมเฉพาะบุคคล

Q: ต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนเข้ารับบริการโปรแกรม Hair Booster?
A: แนะนำให้สระผมให้สะอาดก่อนเข้ามารับบริการโปรแกรม Hair Booster และควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพหรืออาการแพ้ใดๆ

Q: ต้องดูแลตัวเองอย่างไรหลังทำโปรแกรม Hair Booster?
A: หลังจากทำโปรแกรม Hair Booster ควรงดเว้นการสระผมในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังทำ และควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์เคมีและการใช้ความร้อนในการจัดแต่งทรงผม ควรปรึกษาแพทย์และควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์


ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ติดต่อจองคิวได้ที่นี่เลย!
สาขาสยามสแควร์ ซอย 2 | โทร: 095-406-9423 / 095-406-9424 
สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น 3 | โทร: 088-693-0532
สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 7 | โทร: 080-245-7886 
สาขา ONE BANGKOK ชั้น 4 | โทร: 095-369-9668


สอบถามข้อมูลปลูกผมเพิ่มเติม
Tel: 02-001-3530-1
Facebook: HairCliniquebySLC
Line: @HairCliniquebySLC

 

ปรึกษาฟรี ฉีด Hair Formula Shot™ คลิกเลย
Related