คนที่มีปัญหาหัวล้านหัวเถิกสามารถแก้ไขด้วยการปลูกผมได้!

ใครที่กำลังพบปัญหาหัวล้านหัวเถิกอยู่ในตอนนี้และกำลังหาวิธีแก้อยู่ การปลูกผมเป็นหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยแก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี ซึ่งหนุ่มก็เลือกการปลูกผมที่เป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องผมเช่นกัน คนๆนั้นก็คือเจ้าของเพจดัง “คุณพัช หมึกเหลือง” เจ้าของเพจ “หมึกเหลือง” ที่มียอดฟอลโล่มากถึง 266K เป็นอีกหนึ่งเพจที่จะมีคอนเทนต์เป็นภาพการ์ตูนเจ้าหมึกสีเหลืองน่ารักๆ ออกมาตามกระแสกันอยู่เรื่อยๆ ซึ่งเจ้าของเพจอย่างคุณพัชก็มีปัญหาเรื่องผมอยู่ประมาณหนึ่ง ด้วยความที่เริ่มทำเพจมาซักพักเริ่มแรกก็จะเป็นแค่การวาดรูปเจ้าหมึกสีเหลืองประกอบข้อความ แต่หลังๆ ก็จะมีรูปตัวเองโผล่เข้าไปอยู่ตามเพจบางเล็กน้อย และนั่นทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของการปลูกผมในครั้งนี้

เพราะคุณพัชสังเกตเห็นว่าปัญหาผมมันไม่ใช่น้อยๆ จากที่แค่ผมร่วงเฉยๆ จนเริ่มกลายเป็นผมบาง หัวเถิกด้านหน้า มันทำให้หน้าดูแก่ดูโทรมเป็นอาแปะไปเลย ทั้งๆที่อายุยังไม่เท่าไหร่ “ปัญหาผมของพัชที่เห็นชัดๆ มี 2 ส่วนครับ คือตรงกลางหัวที่มีความเป็นไข่ดาวเล็กๆ ไม่มากมายแต่มีคนทักก็แอบขัดใจ และปัญหาด้านหน้าซ้ายขวาที่แหวกผ่าขึ้นไปยิ่งกว่าเบจิต้า และปัญหาที่พบตอนนั้นก็คือผมร่วงเยอะมาก” และปัญหา 2 ส่วนนี้ก็เป็นเหตุให้คุณพัชตัดสินใจปลูกผม

หัวเถิก ปัญหาที่ไม่ตลก กระทบต่อความมั่นใจ

เมื่อคุณพัชเริ่มลงสื่อมากขึ้น เวลาจะลงแต่ละครั้งก็จะเช็คแล้วเช็คอีก หรืออาจจะต้องใส่หมวกคลุมน่ารักๆ เพื่อปิดบังทรงผมเอาไว้ “พัชเริ่มไม่ค่อยมั่นใจในทรงผมตัวเองครับ พอนานวันก็รู้สึกว่าผมบางขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งโดยเฉพาะบริเวณด้านหน้าที่มันลึกจนเห็นได้ชัดจริงๆ พัชก็จะไม่ได้ลงรูปตัวเองในเพจมากเท่าไหร่ ยังคงเน้นเป็นตัวการ์ตูนมากกว่า แต่บางครั้งบางคอนเทนต์ที่จะต้องรีวิวมันก็จำเป็นจะต้องเห็นหน้าเรา แต่ปัญหาผมมันก็กระทบความมั่นใจพัชมากๆ พอมองตัวเองแล้วก็รู้สึกว่าเป็นอาแปะจริงๆนะ คือพัชอยากดูดีอยากมั่นใจ เพราะหน้าที่การงานบางอย่างก็ต้องโชว์หน้าตาครับ”  

ลองหาวิธีแก้ปัญหาผมบางหลายอย่าง ไม่จบไม่สิ้นสักที!

คุณพัชเล่าให้ฟังว่าในตอนแรกไม่ได้เพิกเฉยกับปัญหาผมบาง ก็ได้ลองใช้หลายวิธีที่ใครๆ เขาบอกว่าดี แต่รู้สึกว่ามันไม่ได้เห็นผลชัดเจนเลยสักอย่าง “พัชลองอยู่ 2 อย่างครับ ไม่กล้าลองเยอะมาก กลัวปัญหามันจะลุกลามไปมากกว่านี้ และจริงๆ พัชเห็นการแก้ไขด้วยการปลูกผมนะ แต่พัชรู้สึกว่าปัญหาผมของพัชยังไม่ถึงขั้นต้องปลูกผมก็ได้ เลยลองวิธีอื่นก่อน ซึ่งพัชลองกินยาก่อนอย่างแรกและกินอยู่พักหนึ่งก็เหมือนจะช่วยให้ผมหนาขึ้นมานิดหน่อยนะ แต่พอพัชเริ่มหยุดกินยา ไอผมที่หนาๆ มันก็กลับมาบางเหมือนเดิม อีกอย่างที่พัชลองคือเซรั่ม หยดทุกวัน วันละนิด หยดไปหลายขวดก็ยังไม่ดีขึ้นเลย พัชเลยตัดสินใจหยุดทุกการทดลอง กลัวมันจะเป็นผลเสียภายหลัง” หลังจากที่คุณพัชลองมา 2 วิธีแล้วก็ยังไม่ได้ผลชัดเจน ก็เลยทำให้คุณพัชหันไปสนใจการแก้ไขปัญหาผมนี้ด้วยการปลูกผมแบบจริงจัง  
 

จุดฉนวนที่ทำให้ตัดสินใจ “ปลูกผม”

คุณพัชเริ่มหยุดทุกการทดลองและเริ่มหันมาศึกษาเรื่องการปลูกผมอย่างจริงจัง “ตอนที่พัชหาข้อมูลเรื่องการแก้ปํญหาผมร่วงผมบาง มันก็มีเรื่องการปลูกผมขึ้นมานะ ตอนเสิร์ทพี่กูเกิ้ล แต่ตอนนั้นใจเรายังบอกว่าไม่ต้องถึงขั้นปลูกผมหรอก แต่หลังจากที่ลองแล้ว 2 วิธีก็ไม่เห็นผลที่ชัดเจน เลยลองมาศึกษาเรื่องการปลูกผมว่าขั้นตอนเป็นอย่างไร น่ากลัวไหม จนเจอภาพรีวิวก็เป็นแรงจูงใจมหาศาลที่ทำให้อยากปลูกผม พัชเห็นบางรีวิวคือว้าวมากนะ แบบผมมันขึ้นจริงๆใช่ไหม แอบคิดว่ารีทัชรึเปล่า เพราะพัชเป็นกราฟิคพัชก็จะเอะใจนิดนึง แต่พอดูรีวิวที่เป็นวิดีโอก็คือของจริงไม่แกงกัน”
 

ทำไมเลือกปลูกผมที่ Hair Clinique

เมื่อคุณพัชตัดสินใจที่จะปลูกผมเพื่อแก้ปัญหาผมบางหัวเถิก คุณพัชก็เลือกเข้าปรึกษาที่ Hair Clinique by SLC ก่อนที่แรก เพราะปกติคุณพัชเข้ารับบริการด้านผิวพรรณที่ SLC Clinic อยู่แล้ว จึงเลือกปรึกษาแพทย์ที่นี่ก่อน “ตอนที่พัชศึกษาเรื่องการปลูกผมพัชเห็นหลายคลินิกมากเลยนะ รีวิวกันแน่นไปหมด แต่ด้วยความที่พัชก็มาทำหน้าที่ SLC อยู่แล้ว ก็เลยเลือกปรึกษาที่นี่ก่อนเลย และการปรึกษาหมอครั้งนี้พัชก็ประทับใจมาก เพราะคุณหมอให้ข้อมูลตั้งแต่ปัญหาเลยว่าของพัชเกิดจากอะไร อย่างของพัชคือ รากผมอ่อนแอเลยทำให้เส้นผมที่หลุดร่วงแล้วไม่งอกกลับขึ้นมาใหม่ ซึ่งรากผมอ่อนแอของพัชเกิดจากวัยรุ่นทำสีผม ฟอกผม จัดหนักไปหน่อย” สาเหตุผมร่วงของผู้ชายมีด้วยกันหลายสาเหตุ อาทิ กรรมพันธุ์ ฮอร์โมน ความเครียด เป็นต้น (อ่านสาเหตุอื่นเพิ่มเติม คลิก!)

และนอกจากนี้คุณพัชยังเชื่อมั่นในประสบการณ์แพทย์ของ Hair Clinique  by SLC อีกด้วย “คุณหมอที่นี่เก่งมากครับ จากที่ปรึกษาและได้ทราบถึงประวัติของคุณหมอก็ตัดสินใจปลูกผมที่นี่ละกัน ไหนจะรีวิวที่คุณหมอเอาให้ดู ก็คือปังทุกเคสจริงๆ”
 

แพทย์ปลูกผมที่ Hair Clinique มีความชำนาญการด้านการปลูกผมโดยเฉพาะ ปลูกผมมามากกว่า 10 ปี และมีเคสมากถึง 5,000 เคส เป็นสมาชิกสามัญของสมาคมปลูกผมนานาชาติ เช่น ISHRS และ AAHRS ทั้งยังได้รับใบรับรอง American Board of Hair Restoration Surgery (ABHRS) จากสหรัฐอเมริกา

และยังเป็นกรรมการสอบแพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผมของ ABHRS คนเดียวในประเทศไทย

หลังจากได้ปรึกษาแพทย์เป็นที่เรียบร้อย แพทย์ได้แจ้งถึงวิธีการย้ายรากผม 2 วิธี ซึ่งคุณพัชสามารถเลือกได้ว่าต้องการย้ายรากผมวิธีไหน ซึ่งคุณพัชได้อธิบายวิธีการย้ายรากผมทั้ง 2 วิธีตามความเข้าใจง่ายๆ ของคุณพัชแบบนี้
 

“วิธีที่ 1 เจาะทีละราก แผลบริเวณกว้าง ใช้เวลาทำนาน”

ถ้าเปรียบเทียบเส้นผมเป็นต้นไม้ การจะได้ต้นไม้ที่แข็งแรงก็ต้องมาพร้อมรากต้นไม้ที่แข็งแรง การปลูกผมก็เช่นกัน โดยวิธีการปลูกผมแบบแรกนี้เรียกว่า FUE หรือ Follicular Unit Excision  ซึ่งเป็นวิธีการปลูกผมที่ค่อนข้างทันสมัย ได้รับความนิยมเพราะเป็นการใช้เครื่องมือพิเศษเฉพาะทาง กระทำการเจาะหนังศีรษะบริเวณที่มีรากผมออกมา ซึ่งแผลจะเล็กมาก เป็นจุด จุด จุด กระจายไปตามตำแหน่งที่เจาะ วิธีนี้คือ ถ้าคนปลูกผมตัดสกินเฮด ก็คือไม่เห็นรอยแผลอะไรเท่าไหร่เลย ดูแลรักษาตัวค่อนข้างง่าย ไม่มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิต ที่สำคัญ วิธี FUE ยังสามารถเอารากผม หรือขน จากบริเวณอื่นๆ มาใช้ได้ด้วย ไม่ว่าจะเห็น หนวด เครา หรือขนหน้าอก ของพัชคือไม่มีเลย 5555 เกลี้ยงเว่อ ร้องไห้ แต่ข้อเสียก็คือ ทำได้น้อย และใช้เวลานาน เหมาะกับคนที่ใช้จำนวนการปลูกไม่มาก และคุณหมอยังบอกอีกว่า การเจาะดึงรากผมเป็นจุดๆ แบบนี้ จะต้องมาคัดเลือกรากผมที่แข็งแรงอีกที ซึ่งก็อาจจะใช้ไม่ได้ 100% แต่ข้อดีก็อย่างที่บอกไปในตอนแรกเลย

“วิธีที่ 2 ผ่าครั้งเดียว แผลสวยเป็นเส้นบางๆ ใช้เวลาทำน้อย”

วิธีที่ 2 นี้เป็นการผ่าตัดเล็ก เรียกว่า FUT (Follicular Unit Transplantation)  โดยเป็นการผ่าเอาหนังศีรษะบริเวณท้ายทอยหรือส่วนที่มีรากผมแข็งแรงออกมาเป็นแถบๆ แล้วให้กล้องจุลทรรศน์ในการหั่นเส้นผมที่ได้ออกมาซึ่งวิธีการนี้จะทำให้ได้ตัวเส้นผมพร้อมรากที่แข็งแรงกว่าวิธี FUE และได้บริมาณที่เยอะกว่า เร็วกว่า แต่ก็เป็นวิธีที่ต้องฉีดยาชา และเป็นแผลส่วนที่ผ่า แต่พอคุณหมอเย็บปิดแผลแล้วก็จะกลายเป็นแผล 1 เส้นบางๆ เท่านั้น ข้อดีของวิธีนี้ก็คือ ถ้าใครที่ไว้ผมปกติ แบบที่ไม่ใช่สกินเฮดก็จะไม่เห็นแผลเลย เพราะผมก็จะปิดไว้ พื้นที่ในการผ่าน้อยกว่าแบบแรกด้วย
 


ซึ่งคุณพัชได้ตัดสินใจเลือกเป็นวิธีที่ 2 คือ FUT (Follicular Unit Transplantation) แต่ไม่ว่าจะวิธีไหนหลังจากได้รากผมที่แข็งแรงแล้ว ขั้นตอนการปลูกผมจะเหมือนกัน คือ แพทย์จะฉีดยาชาในบริเวณที่ประเมินว่าจะปลูกผม พร้อมทั้งฉีดยาห้ามเลือดที่ผสมในน้ำเกลือ เพื่อให้หนังศีรษะโป่งและพองตัวขึ้น เพื่อให้ง่ายต่อการใส่รากผมเข้าไป จากนั้นแพทย์จะทำการเจาะรู และนำรากผมใส่ลงในรูที่เจาะเตรียมไว้จนครบบริเวณที่จะปลูก

หลังจากทำปลูกผมเสร็จ แพทย์จะแนะนำให้สวมผ้าคาดหน้าผากไว้ 1-4 วัน เพื่อป้องกันการบวมของใบหน้า

บรรยากาศวันปลูกผม

ก่อนจะเริ่มการปลูกผม แพทย์จะทำการออกแบบแนวผมใหม่ ซึ่งคุณพัชสามารถตัดสินใจแนวผมใหม่นี้ได้ว่าต้องการให้แนวผมใหม่เป็นอย่างไร และหลังจากนั้นแพทย์จะทำการคำนวณจำนวนกราฟที่ต้องใช้ในการปลูก “ตื่นเต้นครับตอนนั้น วันปรึกษาก็คือตื่นเต้นแล้วนะ วันปลูกจริงตื่นเต้นกว่า แต่ก็ผ่านมาได้แบบชิลๆ”

ความรู้สึกตอนปลูกผม

“พัชใช้วิธีปลูกผมแบบ FUT ตอนช่วงฉีดยาชาก็เจ็บเข็มแรกครับ หลังจากนั้นคือไม่รู้สึกอะไรเลย ตอนนำรากผมมาปลูกด้านหน้าก็จะเป็นช่วงที่รู้สึกนิดๆ แต่ไม่เจ็บอะไรขนาดนั้นนะ พัชรู้สึกเหมือนมีอะไรมาปักๆ ที่หัวเราเท่านั้นเอง”

ปลูกผมก็ใช้ชีวิตได้ตามปกติ ดูแลตัวเองตามคำแนะนำหมอ

หลังจากผ่านการปลูกผมเป็นเวลา 4-5 ชั่วโมง คุณพัชก็มีแนวผมใหม่ที่จะมาแก้ปัญหาผมบางหัวเถิกได้อย่างแน่นอน ซึ่งหลังการปลูกผมแพทย์ได้แนะนำการดูแลตัวเองเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาที่ดีสุด “คุณหมอบอกพัชว่าปลูกผมเสร็จแล้วสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้นอะไรเยอะแยะ แต่แค่ให้ดูแลเส้นผมที่ปลูกไปในช่วงอาทิตย์แรกกับแผลบริเวณด้านหลังนิดหน่อย หมอบอกว่าครบ 3 วันก็สามารถสระผมด้านหน้าได้แต่แนะนำเป็นแบบแชมพูสระผมเด็กอ่อนโยนนิดนึง ที่สำคัญห้ามเกาด้านหน้านะ แค่แตะๆ ให้เกิดฟองก็พอ ซึงวันที่พัชสระผมพัชรู้สึกว่าผมด้านหน้าเหมือนต้นไม้เล็กๆ น่าทะนุถนอม ส่วนแผลด้านหลังเป็นไหมละลาย มันจะค่อยๆหายไปเอง ช่วงแรกก็จะรู้สึกตึงเล็กน้อยเวลาสระผมก็คลึงเบาๆ เช่นกัน ไม่รุนแรง พอเข้าสัปดาห์ที่ 2 ก็สระผมได้ตามปกติเลย”

ปลูกผมครบ 8 เดือน ผลลัพธ์ที่รอคอย!

หลังจากที่คุณพัชปลูกผมครบ 8 เดือนก็ต้องมาอัพเดตกันหน่อยว่า หลังจากปลูกผมไปแล้วเป็นอย่างไรบ้าง มีคนทักบ้างรึเปล่า หรือรู้สึกมีความมั่นใจมากขึ้นไหม? “ตอนนี้ 8 เดือนแล้วเส้นผมคือแข็งแรงมากประมาณ 90% จากที่ปลูกไปตอนแรก คือจะมีช่วง 2-3 เดือน ที่เส้นผมที่ปลูกเริ่มร่วง ฟีลเหมือนการผลัดใบเลย ร่วงและขึ้น ร่วงและขึ้น จนสุดท้ายเหลือแค่ที่แข็งแรง จนตอนนี้พอใจกับการปลูกผมมากๆ เพราะได้แนวผมตามที่ต้องการ ส่วนแผลด้านหลังเอาจริงคือมองไม่เห็น ลูบไม่เจอ เอามือถือมาส่องไฟก็แทบไม่เห็นเลย มันกลายเป็นเส้นบางๆ ไปแล้ว ประทับใจในผลลัพธ์จริงๆ”

ปัจจุบันดูแลเส้นผมอย่างไรบ้าง?

หลังจากนี้เส้นผมของคุณพัชก็จะแข็งแรงเหมือนเส้นผมอื่นๆ ทั่วหนังศีรษะ สามารถดูแลและทำทุกอย่างได้ตามปกติแล้ว จึงต้องถามว่าตอนนี้คุณพัชดูแลเส้นผมอย่างไร “พัชยังคงบำรุงและดูแลรากผมให้แข็งแรงอยู่เรื่อยๆ ครับ ด้วยการทำทรีทเมนต์บำรุงผมที่ Hair Clinique by SLC นี่เลย พัชมีทำฉายแสง LED Therapy กับผลักวิตามิน Pora Cool Hair วิธีเหล่านี้ช่วยให้ทั้งผมใหม่และเก่าแข็งแรง พัชก็ทำมาตลอดหลังจากปลูกผม ปลูกผมมาแล้วก็อยากดูแลให้ดีครับ เรียกได้ว่าตอนนี้กลายเป็นคนรักผมมาก”

ปลูกผมแล้วจะยืดดัดทำสีได้หมด!

นอกจากเส้นผมที่แข็งแรง หลังการปลูกผมแล้วก็สามารถทำสีผมได้ตามปกติ เป็นเหตุให้คุณพัชได้มีการทำสีผมหลังจากปลูกผมไปแล้วด้วยเช่นกัน เป็นสีผมที่จัดจ้านใช่ได้เลย ซึ่งการทำสีผมไม่ได้ส่งผลต่อเส้นผมที่ปลูกไป เพราะสีผมจะทำการเปลี่ยนสีของเส้นผมเท่านั้น ไม่ได้ทำอันตรายให้ในส่วนของรากผม โดยส่วนใหญ่ร้านทำผมก็จะเว้นระยะการทำสีไม่ให้เข้าใกล้กับรากผมหรือโคนผม เพื่อลดการระคายเคืองของหนังศีรษะ จึงไม่ต้องกังวลว่าปลูกผมแล้วจะไม่สามารถทำสีผมได้ รวมถึงการยืดดัดก็สามารถทำได้หมดเช่นกัน

เปิดใจกับการปลูกผม แล้วผมจะทำให้คุณมั่นใจขึ้นอีกหลายเท่า

“เรื่องการปลูกผมลองเปิดใจศึกษาดูครับ ลองดูรีวิวก่อนเหมือนพัชก็ได้ ถ้าเป็นภาพนิ่งแล้วไม่สนใจ เป็นวิดีโอก็ได้ คือพัชเห็นว่ามันได้ผลจริงๆ นะ และพอหลังจากพัชปลูกผม มันก็ทำให้พัชดูดีขึ้นมาก แต่ก่อนคือพัชดูหน้าแก่มาก ทั้งๆที่อายุยังไม่เท่าไหร่ ครีมบำรุงผิวพัชก็ใช้ แต่ทำไมมันยังดูมีอายุอยู่ พอหลังจากที่เทียบรูปก่อนปลูกผมกับตอนนี้คือรู้เลยทันทีว่า เพราะเส้นผมทำให้หน้าแก่! ที่สำคัญมันเรียกความมั่นใจพัชกลับมาได้ทันที ยิ่งพอมีคนทักว่าดูดี พัชยิ่งมั่นใจขึ้นอีกครับ พัชเลยอยากบอกว่าราคามันอาจจะแรง แต่ผลลัพธ์มันคุ้มค่ากับการลงทุนนะ หรือถ้ายังตัดสินใจไม่ได้ ลองเข้ามาปรึกษาคุณหมอก่อนก็ได้ อาจจะมีแนวทางการรักษาแบบอื่นที่เหมาะกับปัญหาของคุณ คุณหมอที่นี่เขาให้คำปรึกษาที่ดี เวลาใครถามพัช พัชก็บอกเขานะเรื่องการปลูกผม ก็อยากแนะนำทุกคนจริงๆ ว่าให้เข้ามาปรึกษาครับ”

ขอขอบคุณภาพจาก
Facebook Page : หมึกเหลือง 
Instagram : phatthara.l