ปัจจุบันนี้ต้องยอมรับเลยว่าคลินิกปลูกผมมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้ที่มีปัญหาเรื่องผม หรือผู้ที่ต้องการอยากปลูกผมมีตัวเลือกในการเลือกคลินิกปลูกผมที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง แต่แอดว่ายังมีหลายคนที่สนใจเรื่องปลูกผมแต่ไม่รู้ว่าจะต้องเลือกคลินิกปลูกผมแบบไหนถึงจะดีที่สุด ซึ่งแอดได้รวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว เรียกได้ว่าสรุปมาให้แบบครบถ้วน เพราะการเลือกคลินิกปลูกผมไม่ใช่เลือกแค่ราคาหรือรีวิวเท่านั้น มีอีกหลายข้อที่ต้องรู้
10 ข้อควรรู้ก่อนเลือกคลินิกปลูกผม
1. มีเทคนิคการปลูกผมแบบใดบ้าง?
ปัจจุบันเทคนิคการปลูกผมที่ได้มาตรฐานได้รับการรับรองจากสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (The International Society of Hair Restoration surgery) มีด้วยกัน 2 เทคนิค คือ ปลูกผม FUT และ ปลูกผม FUE ซึ่งทั้ง 2 เทคนิคสามารถแก้ปัญหาศีรษะล้าน หัวเถิก ผมร่วง และผมบางได้เหมือนกัน โดยจะแตกต่างกันในขั้นตอนการย้ายรากผม กับลักษณะของแผลเท่านั้น
ปลูกผม FUT เป็นวิธีผ่าตัดขนาดเล็กที่ไม่ต้องดมยาสลบ โดยเป็นการผ่าเอาหนังศีรษะออกมาเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า จากนั้นเย็บปิดแผลด้วยเทคนิค Trichophytic Technique หลังจากนั้นนำหนังศีรษะที่ได้มาคัดแยกรากผมด้วยกล้องจุลทรรศน์ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง เพื่อไม่ให้เซลล์รากผมเสียหาย จำเป็นต้องทำโดยผู้ชำนาญการเท่านั้น หลังจากได้รากผมแล้วก็นำไปปลูกในบริเวณที่เกิดปัญหา เทคนิคนี้จะมีรอยแผลเป็นเส้นตรงหนึ่งเส้น เมื่อมีผมมาปิดก็จะดูไม่ออกว่ามีแผลบริเวณนั้น
ปลูกผม FUE เป็นวิธีการใช้เครื่องมือเจาะย้ายรากผม ซึ่งเครื่องมือเป็นหัวเจาะขนาดประมาณ 0.8-1.0 มม. วิธีนี้ต้องทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญการเฉพาะทาง เพราะด้วยเครื่องมือที่มีขนาดเล็กมาก จึงต้องใช้ความละเอียดและแม่นยำที่สุด หลังจากได้รากผมแล้วก็นำไปปลูกในบริเวณที่เกิดปัญหา เทคนิคนี้มีรอยแผลลักษณะเป็นจุดๆ คล้ายรูขุมขนทั่วบริเวณที่เอารากผมออกมา หากผมยาวก็จะมองไม่เห็นแผล
นอกเหนือจาก 2 เทคนิคนี้ก็ยังมีอีกหนึ่งคือ ปลูกผม DHI เป็นอีกหนึ่งเทคนิคปลูกผมที่ได้ยินบ่อยไม่แพ้กับเทคนิคอื่นๆ แต่ปลูกผม DHI เป็นการปลูกผมที่คล้ายกับปลูกผม FUE ใช้เครื่องมือเจาะเอารากผมออกมา แต่จะใช้เครื่องมือตัวเดียวกันในการปักรากผมในบริเวณที่เกิดปัญหาด้วย แต่การปลูกผม DHI ไม่ได้รับการรับรองจากสมาคมศัลยกรรรมปลูกผมนานาชาติ
ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะบางคลินิกก็มีหัตถการที่เป็นการปลูกผมไม่ผ่าตัด เป็นการสร้างเส้นผมให้งอกใหม่ด้วยการฉีดอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น Hair formula shot™ เทคโนโลยีสุดล้ำที่มีสารชีวโมเลกุล 1,000 ชนิด และโปรตีนอีกหลายชนิดที่มากกว่า PRP เป็น 1,000 เท่า ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์และสเต็มเซลล์ต่างๆ ในระบบรากผมและหนังศีรษะให้ทำงานได้ดีขึ้น อีกทั้งยังมี miRNA ช่วยปรับระดับการทำงานของยีนภายในเซลล์ให้เป็นปกติ หยุดการทำงานของยีนผิดปกติที่เป็นสาเหตุของผมร่วงได้อีกด้วย
2. มีภาพและวิดีโอรีวิวก่อนปลูกผม หลังปลูกผม และขณะปลูกผม
อันนี้ถือว่าเป็นข้อต้นๆ เลยที่ต้องพิจารณาว่าคลินิกนั้นมีภาพวิดีโอรีวิวที่ชัดเจนไหม ควรจะต้องมีภาพก่อนปลูกผม หลังปลูกผม หรือถ้ามีภาพขณะปลูกผมด้วยก็จะยิ่งดี แต่ต้องบอกตรงนี้ว่าการปลูกผมจะไม่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที จะต้องใช้เวลาประมาณ 10 เดือนขึ้นไปที่จะเห็นถึงผลลัพธ์ที่ชัดเจน ดังนั้นควรเช็ครีวิวที่ได้คุณภาพจริงๆ มีภาพและวิดีโอหลังปลูกผมครบ 1 ปีขึ้นไป
LIVE แยก เจาะ แล้วปักรากผมที่แข็งแรง ทีละกราฟ
LIVE แบงค์ Black Vanilla ปักรากผม 1 ในขั้นตอน 1500 กราฟ พี่แบงค์นอนชิล ไม่เกร็งเลย
3. แพทย์ให้ข้อมูล คำแนะนำก่อนปลูกผมและหลังปลูกผมอย่างชัดเจนตรงไปตรงมา
แอดเชื่อว่าการให้ข้อมูลของแพทย์ก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยขั้นตอนนี้อาจจะเป็นช่วงที่นัดปรึกษาแพทย์แล้ว เมื่อได้เจอแพทย์ควรพิจารณาว่าแพทย์ให้ข้อมูลการปลูกผมครบถ้วนไหม แจ้งถึงผลลัพธ์ที่เป็นความจริงๆ ไม่มีการหลอกหรือโฆษณาชวนเชื่อจนเกินไป และให้คำปรึกษาที่จริงใจตรงไปตรงมา ซึ่งคลินิกที่ดีควรจะต้องเป็นแบบนั้น
4. ความชำนาญการของแพทย์ มีความน่าเชื่อถืออย่างไร?
ความชำนาญการของแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ แพทย์ต้องมีความน่าเชื่อถือ เช็คให้ชัวร์ว่าเป็นแพทย์ที่จะปลูกผมให้นั้น เป็นแพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผมจริงไหม มีใบรับรองจากสถาบันปลูกผมระดับโลกด้วยหรือเปล่า ต้องสามารถตรวจสอบได้
5. ประสบการณ์ของแพทย์ มีจำนวนเคสมากน้อยเพียงใด
อีกหนึ่งข้อที่ดูเหมือนจะเช็คยาก แต่แอดมีเคล็ดลับในการเช็คมาบอก คือ แพทย์ที่จะได้ใบรับรองจากสถาบันปลูกผมอเมริกันบอร์ด American Board of Hair Restoration Surgery (ABHRS) จากสหรัฐอเมริกา จะต้องมีการเก็บระยะเวลาของประสบการณ์ และจำนวนคนไข้ตามที่คณะกรรมการได้กำหนดไว้ ซึ่งแพทย์ที่ได้จะต้องมีคุณสมบัติและประสบการณ์ตามข้อกำหนด ดังนั้นในส่วนจำนวนเคสนี้ ถ้าแพทย์ได้การรับรองจากอเมริกันบอร์ด เชื่อถือได้เลยว่าจำนวนเคสต้องเยอะมากอย่างแน่นอน
6. สถานที่และเครื่องมือการแพทย์มีความสะอาดและได้มาตรฐาน
นอกจากความชำนาญการของแพทย์แล้ว สถานที่ของคลินิกก็ควรจะได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ และอุปกรณ์การแพทย์ก็ต้องมีความสะอาด ปลอดภัย รวมไปถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยก็เป็นตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปลูกผมให้แพทย์ได้ด้วย
7. ราคาสมเหตุสมผล
เรื่องราคาค่าใช้จ่ายข้อนี้ก็ถือว่าสำคัญมาก แต่ละคลินิกราคาปลูกผมไม่เหมือนกันเลย บางคลินิกก็ราคาถูกจนน่าตกใจ บางคลินิกก็มีราคาสูงจนรู้สึกว่าแพงเกินไปหรือเปล่า แอดอยากให้พิจารณาจาก 6 ข้อข้างบนลงมาก่อน เพราะราคา คุณภาพและประสบการณ์ของแพทย์ก็ต้องมีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกัน บางคลินิกราคาถูกก็จริงแต่ปลูกผมได้จำนวนกราฟน้อยและผมไม่ติดก็เป็นเรื่องที่ไม่โอเค ทั้งนี้แอดอยากให้ดูภาพรวมหลายๆ ข้อไปพร้อมกับเรื่องราคาด้วย
8. ความชำนาญในการออกแบบทรงผม
การวางทิศทางรากผมให้ออกมาในแนวองศาเดียวกันกับเส้นผมเดิมก็จำเป็นอย่างมากที่จะต้องใช้ประสบการณ์และความชำนาญ เพราะต้องเข้าใจถึงแนวเส้นผมเดิมและเข้าใจถึงรูปหน้าของแต่ละบุคคล การออกแบบแนวผมหรือทรงผมในการปลูกผมถือเป็นศิลปะที่ต้องใช้ความชำนาญของแพทย์ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติที่สุด
9. มีการติดตามหลังการปลูกผม
เมื่อปลูกผมเสร็จแล้วไม่ได้หมายความจะบอกลาคลินิกปลูกผมได้เลย หลังการปลูกผมควรมีการติดตามดูแลหลังปลูกผมอย่างต่อเนื่อง โดยปกติแพทย์จะนัดมาเพื่อดูผลลัพธ์หลังปลูกผมทุก 7 วัน, 1 เดือน, 6 เดือนและ 1 ปี เพราะการปลูกผมกว่าจะเห็นผลลัพธ์แบบ 100% ก็คือปลูกผมครบ 1 ปี ดังนั้นการติดตามดูแลหลังการปลูกผมจึงสำคัญมากๆ ไม่แพ้ข้ออื่น
LIVE คุณพ่อพี่ซานิ อัพเดทหลังปลูกผม FUE 3 เดือน กับคุณหมอฝน
10. ได้รับความน่าไว้วางใจจากผู้มีชื่อเสียง
ในข้อนี้แอดขอยกให้เป็นข้อสุดท้าย เพราะถ้าเทียบกับทุกข้อ ข้อนี้แอดให้ความสำคัญน้อยที่สุด แต่ไม่ใช่ว่าไม่สำคัญ ทุกวันนี้ดารา นักแสดง นักร้อง อินฟลูเอนเซอร์ หรือเรียกว่าผู้มีชื่อเสียงมีส่วนในการตัดสินใจซื้อสินค้า เลือกใช้บริการต่างๆ อยู่พอสมควรเลย เพราะกระแสบางอย่างก็เกิดจากผู้มีชื่อเสียงในโซเชียลนี่แหละ ดังนั้นถ้าคลินิกปลูกผมไหนมีดาราอินฟลูที่มาปลูกผมเยอะก็ดูจะเป็นอีกความน่าเชื่อถือหนึ่งของคลินิกนั้นๆ
Checklist Hair Clinique by SLC กับ 10 ข้อควรรู้ก่อนเลือกคลินิกปลูกผม
และนี่คือข้อสรุปว่าการเลือกคลินิกปลูกผมมีหลายข้อให้พิจารณา เพราะการปลูกผมจำเป็นต้องใช้ความชำนาญการและประสบการณ์ของแพทย์เป็นอย่างสูง ดังนั้นจะมาเลือกแพทย์เลือกคลินิกแบบมั่วๆ ไม่ได้ รวมไปถึงภาพรวมหลายๆ อย่างของคลินิกนั้นๆ อาจจะไม่ต้องมีครบทั้ง 10 ข้อเลยก็ได้ แต่แอดว่าเน้นข้อที่สำคัญอย่าง ความชำนาญการของแพทย์ ประสบการณ์ของแพทย์ จำนวนเคส มีภาพก่อนหลังทำที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจน และสถานที่ต้องสะอาดได้มาตรฐานด้วย
ซึ่งนอกจาก 10 ข้อแล้ว แอดขอเสริมพิเศษอีก 2 ข้อ คือ เรื่องตำแหน่งที่ตั้งของคลินิก (Location) ถ้าคลินิกอยู่ในโลเคชั่นที่ดี ใจกลางเมือง เดินทางง่ายก็ดูจะเป็นเรื่องความสะดวกสบายในการไปฟอลโล่อัปกับแพทย์ และอีกข้อก็คือการมีหัตถการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลหนังศีรษะและเส้นผม เช่น LED ฉายแสงลดผมร่วง, Hair Fraxel เลเซอร์ลดผมร่วง หรือ Pora Cool Hair ทรีทเม้นท์กระตุ้นรากผมให้แข็งแรง คือถ้าคลินิกนั้นๆ มีหัตถการอื่นเพิ่มเติมด้วยก็จะสามารถช่วยบำรุงเส้นผมที่ปลูกให้อยู่ได้นานขึ้น บวกกับการมีสาขาเยอะก็ทำให้สะดวกสบายในการเข้าใช้บริการ ใกล้บ้านตรงไหนก็สามารถเข้าไปดูแลบำรุงเส้นผมได้เลย
สุดท้ายแล้วจริงๆ แอดขอฝากไว้ว่าที่ Hair Clinique by SLC เข้าเกณฑ์ทั้ง 10 ข้อ รวมไปถึง 2 ข้อพิเศษด้วย ผู้ที่สนใจอยากปรึกษาแพทย์เรื่องปัญหาผม แอด LINE: @HairCliniquebySLC มาได้เลย มีโปรโมชั่นดีๆ รออยู่เพียบ!