ฮาย ฮาย~~ แอดมาแล้วค่า กลับมาพร้อมกับคอนเทนต์เบาๆ เอาใจคนที่สนใจอยากปลูกผม ใครที่เสิร์ทกูเกิ้ลมาแล้วเจออันนี้แสดงว่าต้องเริ่มสนใจการปลูกผมมาแล้ว แต่คิดว่าน่าจะมีความลังเลที่จะปลูกผมอยู่ กับบางคนคือตัดสินใจไม่ได้ว่าจะปลูกผมที่ไหนดี วันนี้แอดเลยรวบรวมสิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับการปลูกผมมาให้ เอาแบบที่ว่าอ่านอันนี้แล้วจบเคลียร์ อ่านจบตัดสินใจได้เลยว่า ฉันจะปลูกผมที่ไหนดี
1. วิธีการปลูกผม
ขั้นตอนในการปลูกผมจริงๆ แล้วมันเหมือนกันทั้งหมด โดยจะเป็นการเอารากผมที่แข็งแรงมาปักมาปลูกบริเวณที่เกิดปัญหา แต่ความแตกต่างมันอยู่ตรงวิธีการเอารากผมออกมา ซึ่งตามหลักสากลการเอารากผมออกมามี 2 วิธี คือ
FUT (Follicular Unit Transplantation) เป็นการผ่าตัดเอาหนังศีรษะด้านหลังออกมา หลังจากนั้นใช้กล้องจุลทรรศน์คัดแยกรากผม วิธีนี้เป็นวิธีที่รากผมจะมีความสมบูรณ์ที่สุด คุณภาพของกราฟ 95-100% อัตราความเสียหายของรากผมระหว่างผ่าตัด 1 – 2% เท่านั้น รอยแผลด้านหลังจะเป็นเส้นตรงบางๆ เมื่อผมยาวปิดลงมาก็ไม่เห็นรอยแผลแล้ว
FUE (Follicular Unit Extraction) เป็นการเจาะย้ายรากผมจากด้านหลังศีรษะด้วยเครื่องมือที่มีหัวเจาะขนาดประมาณ 0.8-1.0 มม. เป็นหัวเจาะขนาดเล็กมาก โดยคุณภาพของกราฟจะอยู่ที่ 90-100% อัตราความเสียหายของรากผมระหว่างผ่าตัด 1-3 % แต่รอยแผลจะเป็นจุดเล็กๆ ที่มองแทบไม่เห็นเมื่อผมยาว
แต่ยังมีอีกหนึ่งเทคนิคปลูกผมที่แอดต้องบอกเลยว่าเริ่ดดดด เป็นการปลูกผม ไม่ผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น Regenera activa การปลูกผมแบบฉีด ใช้หลักการซ่อมแซมเซลล์รากผมด้วยเซลล์ตัวเอง โดยเป็นการเจาะเอาเนื้อเยื่อบริเวณหนังศีรษะนำไปเข้ากระบวนการสกัดเซลล์ด้วยเครื่อง Regenera activa จนทำให้ได้เซลล์ที่มากกว่า 100,000 เซลล์ หลังจากนั้นนำมาฉีดที่บริเวณหนังศีรษะที่เกิดปัญหา โดยจะเห็นผลลัพธ์หลังการรักษาประมาณ 1-2 เดือน เป็นอีกหนึ่งเทคนิคสำหรับคนที่ไม่ต้องการผ่าตัด และเป็นวิธีที่ปลอดภัยเพราะทุกขั้นตอนต้องทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ
2. ประสบการณ์และความชำนาญการของแพทย์
สำคัญมากคือเรื่องแพทย์! แพทย์ปลูกผมจะต้องมีประสบการณ์และความชำนาญการเฉพาะทางด้านการปลูกผม โดยแอดก็แนะนำให้เช็คว่าแพทย์ปลูกผมที่จะเลือกมีความน่าเชื่อถือระดับไหน ถ้าเป็นแอดแอดจะเช็คว่าแพทย์ท่านนั้น
ได้ใบรับรอง American Board of Hair Restoration Surgery (ABHRS) จากสหรัฐอเมริกา หรือเปล่า เพราะการได้รับรองจาก ABHRS ถือว่าเป็นแพทย์ปลูกผมที่มีคุณสมบัติและประสบการณ์ตามที่คณะกรรมการของเขากำหนดไว้ และเป็นการรับรองคุณสมบัติโดยหลักสากลทั่วโลก
ปัจจุบันมีแพทย์คนไทยที่ได้รับรองโดย ABHRS เพียง 17 ท่าน
และ 2 ใน 17 ท่านอยู่ที่ Hair Clinique by SLC คือ คุณหมอหมู และคุณหมอฝน
3. ผลลัพธ์ก่อนหลังปลูกผมชัดเจน
อีกหนึ่งสิ่งที่ถ้าจะตัดสินใจปลูกผมต้องไม่ลืมที่จะดู โดยแอดแนะนำให้ดูผลลัพธ์หลังทำทันที ว่าแนวเส้นผมที่คุณหมอปลูกดูเป็นธรรมชาติมากน้อยแค่ไหน เพราะจะปลูกผมแบบทื่อๆ ก็อาจจะทำให้ได้แนวผมที่ไม่ได้สวยเป็นธรรมชาติ และแอดก็ให้ดูผลลัพธ์อีกทีคือหลังปลูกผม 10 เดือนขึ้นไป เพราะจะเป็นช่วงที่เส้นผมขึ้นเกือบจะ 100% แล้ว
4. ระยะเวลาการพักฟื้นหลังปลูกผม
มีหลายคนที่พอคิดจะปลูกผมแล้วก็อยากรู้ว่าหลังทำจะต้องพักฟื้นอย่างไร ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานแค่ไหน เพื่อที่จะได้ขอลางานได้ถูก แอดตอบให้ตรงนี้เลยว่าการปลูกผมไม่จำเป็นต้องพักฟื้นเลย เพียงแค่ในช่วง 2-3 วันแรกอาจจะระมัดระวังไม่ให้ศีรษะเกิดการกระแทก เพราะอาจจะทำให้เส้นผมที่ปลูกหลุดได้ และควรโพกผ้าคาดผมไว้อยางน้อย 2-3 วัน
5. การดูแลหลังทำ
อีกหนึ่งสิ่งที่จำเป็นต้องรู้ไว้เลยคือการดูแลหลังการปลูกผม ซึ่งแอดสรุปมาให้แล้ว
ห้ามแกะสะเก็ดแผลเด็ดขาด โดยสะเก็ดแผลจะหลุดเองภายใน 2 สัปดาห์
งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นเวลา 2 วัน เพื่อป้องกันเลือดออกและการบวมที่ศีรษะ
งดออกกำลังกายประมาณ 3-4 วัน และงดกีฬาที่มีการกระทบกระแทก เช่น ฟุตบอล อย่างน้อย 1 เดือน
งดว่ายน้ำและซาวน่า เป็นเวลา 1 เดือน
เลี่ยงการตากแดดเป็นเวลานานๆ หากไม่มีหมวกคลุมศีรษะ
สวมหมวกได้ แต่อย่าสวมแน่นเกินไป
หลังปลูกผม 1 วัน สามารถสระผมได้ โดยสัปดาห์แรกใช้เป็นแชมพูอ่อนๆ และน้ำอุณหภูมิห้อง
6. ความเสี่ยงหรือข้อจำกัด
แอดเชื่อว่ามีหลายคนมีความกังวลเรื่องการปลูกผมว่าจะมีความเสี่ยงอะไรไหม หรือจะมีอาการแทรกซ้อนอะไรไหม แอดขอย้ำตรงนี้เลยว่า โอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยมาก หรือแทบจะไม่มีโอกาสเกิดเลย อาการที่เกิดได้ก็จะเป็นเพียงอาการบวม ซึ่งอาการบวมจะเป็นเพียงอาการชั่วคราวเท่านั้น
และส่วนข้อจำกัดอันนี้แอดก็ต้องบอกตรงๆ เลยว่าการปลูกผมมีข้อกำจัดอยู่เล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยพบ คือ หากเส้นผมด้านหลังบริเวณท้ายทอยที่จะนำมาปลูกมีไม่เพียงพอก็ถือว่าเป็นข้อจำกัดอย่างหนึ่งของการปลูกผม
7. ค่าใช้จ่าย
อันนี้แอดเชื่อเลยว่าสำคัญมาก เรื่องค่าใช้จ่าย เรื่องการปลูกผม ราคาเท่าไหร่ แอดขออธิบายแบบนี้ดีกว่า เพราะแต่ละที่ราคาการปลูกผมก็ไม่เหมือนกัน จริงๆ แอดอยากให้พิจารณาจาก 6 ข้อด้านบนเรียงลงมาก่อน แล้วดูว่ามีคลินิกหรือโรงพยาบาลที่โดนใจไหม และมีเกณฑ์ที่จะเราจะมั่นใจเลือกปลูกผมได้ไหม หลังจากนั้นก็มาเช็คราคา คือแอดคิดว่าถ้าราคาถูกมากแต่พอไปปลูกผลจริงๆ ได้จำนวนกราฟผมไม่เยอะ สุดท้ายก็แก้ปัญหาผมบาง ศีรษะล้านไม่ได้ ดังนั้นเลยดูที่ราคาที่เหมาะสม ไม่แพงจนเกินไป และปลูกผมในจำนวนกราฟที่น่าพอใจ ทั้งนี้แอดก็อยากให้เข้าปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งด้วย
ที่ Hair Clinique มีครบทุกข้อ ตอบโจทย์คนมีปัญหาผมบาง ศีรษะล้านแน่นอน
มี 2 เทคนิคปลูกผมสากล FUT และ FUE
มี 2 แพทย์ที่ได้ใบรับรองจาก American Board of Hair Restoration Surgery (ABHRS)
แพทย์ทั้ง 2 ท่านมีความชำนาญการด้านการปลูกผมทั้ง 2 เทคนิค
แพทย์มีประสบการณ์มามากกว่า 10 ปี
แพทย์ปลูกผมมาแล้วกว่า 3,000 เคส
จริงๆ แอดมีเรื่องเสริมอีกหนึ่งเรื่องนอกจากเรื่องประสบกาณ์และจำนวนเคสแล้ว ความชำนาญของแพทยในการวางทิศทางรากผมให้ออกมาในแนวองศาเดียวกันก็เป็นสิ่งที่ต้องใช้ประสบการณ์เป็นอย่างมาก แอดว่าการเป็นหมอปลูกผมต้องเข้าใจในหลักศิลปะ เพราะมันจะช่วยให้การออกแบบทรงผมแนวผมให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติที่สุด เรียกว่าต้องใช้ความสามารถ ความละเอียดอ่อนและการมีสมาธิในการปลูกผมด้วย