ปัญหาศีรษะล้าน ผมเถิก ผมบางถือว่าเป็นปัญหาหนึ่งที่มีคนเป็นกันเยอะมากพอสมควร ถ้าเทียบกับเรื่องผิวหน้าแล้วก็ถือว่าไม่ต่างกันมากเท่าไหร่ เพียงแต่ว่าเรื่องเส้นผมสำหรับบางคนยังคงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงเป็นเรื่องยากในการยอมรับ ซึ่งความจริงปัญหาศีรษะล้าน ผมเถิก ผมบางมีวิธีการแก้ไขและรักษาได้เช่นเดียวกับเรื่องผิวหน้า โดยลักษณะของศีรษะล้านจะมีอยู่ด้วยกัน 7 แบบ
ทุ่งหมาหลง คือ หัวล้านเกือบทั่วศีรษะ มีเส้นผมแค่เฉพาะตีนผมทั้งสองข้างเท่านั้น
ดงช้างข้าม คือ หัวล้านเป็นพื้นที่กว้าง จากหน้าผากไปจนเกือบถึงท้ายทอย
ง่ามเทโพ คือ หัวล้านเข้าไปสองข้างขมับด้านหน้า
ชะโดตีแปลง คือ หัวล้านเป็นวงกลมกลางศีรษะ
แร้งกระพือปึก คือ หัวล้านที่เถิกเข้าไปสองข้ามขมับ ลึกโค้งเข้าไปจนต่อกันได้ในบริเวณเกือบถึงท้ายทอย
ฉีกขวานฟาด คือ หัวล้านลักษณะนี้ จะมีเพียงเส้นผมบางๆ ปกปิดศีรษะเท่านั้น
ราชคลึงเครา คือ หัวล้านแบบนี้หมายถึงหัวล้านแบบต่างๆ แต่ว่ามีหนวด เครา หรือขนหน้าอกที่เยอะกว่าปกติ
ซึ่งวันนี้เราก็จะมาแนะนำวิธีแก้ปัญหาศีรษะล้าน ผมเถิก ผมบาง 2 วิธีที่ยอดฮิต คืิอ ยาปลูกผมและการปลูกผม ทั้ง 2 วิธีมีขั้นตอนการรักษาที่แตกต่างกัน และก็รวมถึงข้อจำกัดในการรักษาของทั้ง 2 วิธี จึงบอกได้ว่าไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถใช้วิธีนั้นๆ ได้
ยาปลูกผม เป็นหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่มีปัญหาศีรษะล้าน ผมเถิก ผมบาง ที่อาจจะเป็นการเริ่มต้นเป็นปัญหานั้นๆ โดยการที่จะกินยาปลูกผมก็จะต้องได้รับการพิจารณาจากแพทย์ก่อน และก็ใม่ใช่ทุกคนที่มีปัญหาแล้วจะเลือกกินยาปลูกผมได้เลย เพราะหากปัญหาผมมีมากเกินไปก็ไม่สามารถกินยาปลูกผมได้
อีกอย่างของการกินยาปลูกผมที่ควรรู้ก็คือ เมื่อเริ่มกินยาปลูกผมแล้วก็อาจจะต้องกินเป็นระยะเวลาที่ยาวนานกว่าการรักษาด้วยวิธีอื่น แต่ทั้งนี้การกินยาปลูกผมก็ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้วย
ในส่วนของการปลูกผมนั้นก้ต้องบอกว่าไม่ใช่ทุกคนที่อยากจะปลูกผมแล้วจะทำได้เลย เช่นเดียวกับการกินยาปลูกผมที่จะต้องได้รับการพิจารณาจากแพทย์ก่อน ซึ่งหลักๆ แล้วการปลูกผมนั้นจะต้องพิจารณาจากรากผมบริเวณท้ายทอยของศีรษะว่ามีจำนวนมากพอต่อพื้นที่ที่จะปลูกผมไหม และความแข็งแรงของเซลล์รากผมด้วย แต่ก็ต้องบอกว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีการปลูกผมนั้นทันสมัยขึ้นมาก ทำให้เรื่องทำให้เรื่องการปลูกผมมีประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่าแต่ก่อน การย้ายรากผมไปปลูกก็มีความแม่นยำมากขึ้น อัตราการเสียหายของรากผมก็น้อยกว่าเดิม ด้วยเครื่องมือและความเชี่ยวชาญของแพทย์ก็ทำให้บอกได้เลยว่าผลลัพธ์ของการปลูกผมออกมาเห็นผลอย่างแน่นอน โดยการปลูกผมจะมีด้วยกัน 2 เทคนิค คือ ปลูกผมเทคนิค FUT และ ปลูกผมเทคนิค FUE
ยาปลูกผม กับ ปลูกผม อันไหนดีกว่า?
การเลือกการรักษาไม่ว่าจะกินยาปลูกผมหรือใช้วิธีปลูกผมนั้นขึ้นกับหลายปัจจัย เพราะการรักษาของทั้งคู่มีข้อบ่งชี้ที่แตกต่างกัน การกินยานั้นสำหรับการป้องกันผมร่วง จึงเหมาะกับผู้ที่มีภาวะผมร่วง ผมบาง ส่วนการปลูกผมนั้นเป็นการเพิ่มจำนวนเส้นผมในพื้นที่นั้น ๆ เหมาะกับพื้นที่ที่ศีรษะล้านหรือผมบาง ดังนั้นในแต่ละคนอาจเลือกการรักษาอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือจะทั้งใช้การกินยาและปลูกผมร่วมกันได้ ซึ่งสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกการรักษาที่เหมาะกับเราได้
ยาปลูกผม
เหมาะกับใคร : ใช้ในผู้ที่มีภาวะผมบางต่อเนื่อง เช่นจากสาเหตุทางกรรมพันธุ์หรืออื่น ๆ
ระยะเวลาในการรักษา : เป็นประจำ
ผลการรักษา : ไม่แน่นอน
ระยะเวลาที่เห็นผลลัพธ์ : 6 เดือนขึ้นไป ถึงเห็นการเปลี่ยนแปลง
ราคา : ต่ำไม่แพง แต่ต้องใช้ยาระยะยาว
ปลูกผม
เหมาะกับใคร : สำหรับผู้ที่มีปัญหาศีรษะล้าน ผมบาง ผมเถิก ที่เห็นได้ชัดเจน
ระยะเวลาในการรักษา : ครั้งเดียว
ผลการรักษา : ถาวร
ระยะเวลาที่เห็นผลลัพธ์ : 4-6 เดือน เริ่มเห็นเส้นผมขึ้น และจะยาวขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนเส้นผมปกติ
ราคา : สูงกว่าการใช้ยา แต่เป็นค่าใช้จ่ายครั้งเดียว