Open Daily : 10:00 - 20:00
Call center : 095-406-9423-4
Line ID : @HairCliniquebySLC

ปลูกผม FUE

ปลูกผม FUE คืออะไร? เทคนิคไร้แผลถาวรที่ดูเป็นธรรมชาติ

เมื่อปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้านเข้ามารบกวนจิตใจ การมองหาทางแก้ไขที่ยั่งยืนอย่างการปลูกผมก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งในปัจจุบันมีเทคนิคที่ได้รับความนิยมสูงอย่าง ปลูกผม FUE (Follicular Unit Extraction) ซึ่งเป็นวิธีที่โดดเด่นในเรื่องความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ

ปลูกผม FUE (Follicular Unit Extraction) คืออะไร?

การปลูกผม FUE (Follicular Unit Extraction) เป็นการปลูกผมที่มีขั้นตอนการย้ายเซลล์รากผมในรูปแบบการเจาะเอารากผมออกมา ซึ่งหลักการย้ายรากผมจะใช้หัวเจาะขนาดประมาณ 0.6-1.0 มิลลิเมตร เพื่อเจาะเอารากผมบริเวณท้ายทอย เป็นบริเวณที่เส้นผมมีความแข็งแรงมากที่สุด เจาะขึ้นมาด้วยความละเอียดประณีตสูง ในขั้นตอนนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการบริการจากผู้ที่มีความชำนาญเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดจนทำให้รากผมเสียหายได้ ดังนั้นการย้ายเซลล์รากผมด้วยวิธีนี้จึงจำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้มีความสามารถด้านการปลูกผมเฉพาะทาง (American Board Certified) และด้วยเครื่องมือที่มีขนาดเล็กมาก การปลูกผม FUE จึงทำให้รอยแผลที่บริเวณด้านหลังมีความเลือนลางแทบมองไม่เห็น

สาเหตุที่ทำให้ผมร่วง

สาเหตุของผมร่วงมีหลายประการ ทำให้หลายคนต้องพึ่งการปลูกผม FUE เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้

  • พันธุกรรมและฮอร์โมน DHT ที่ทำให้รากผมฝ่อ พบมากถึง 80% โดยเฉพาะในผู้ชาย
  • โรคบางชนิด เช่น โรคไทรอยด์ โรคภูมิแพ้ตัวเอง หรือการติดเชื้อที่หนังศีรษะ
  • ผลข้างเคียงจากยาบางประเภท เช่น ยารักษามะเร็ง ยาลดไขมัน หรือยาลดความดัน
  • การขาดสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของเส้นผม
  • ความเครียดสะสมที่กระตุ้นให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลมากเกินไป

การปลูกผม FUE มีความแตกต่างจากเทคนิคอื่นอย่างไร

ความโดดเด่นของ ปลูกผม FUE อยู่ที่กระบวนการที่ไม่ต้องผ่าตัดเป็นแผลยาวเหมือนเทคนิค FUT (Follicular Unit Transplantation) ทำให้ไม่มีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ และหลังทำมีอาการบวมน้อยกว่ามาก นอกจากนี้ยังเป็นเทคนิคที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการปลูกผมในส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้ เช่น การปลูกหนวดเครา และคิ้ว ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ

เทคนิค ปลูกผม FUE มีข้อจำกัดอะไรบ้าง

แม้เทคนิค ปลูกผม FUE จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ก็มีข้อจำกัดที่ควรพิจารณา

  • จำนวนกราฟต์ที่จำกัด : ในแต่ละครั้งแพทย์จะสามารถเจาะเอากราฟต์ผมออกมาได้จำนวนหนึ่งเท่านั้น
  • ผมบริเวณท้ายทอยบางลง : การนำรากผมออกมาปลูกในที่ใหม่ ทำให้ผมบริเวณที่เจาะมีจำนวนน้อยลงและไม่สามารถงอกกลับมาได้อีก
  • ใช้เวลาทำนาน : เนื่องจากเป็นการเจาะเก็บกราฟต์ผมทีละกลุ่ม ทำให้ต้องใช้เวลาในการทำหัตถการนานกว่าเทคนิค FUT

ขั้นตอนการปลูกผม FUE (Follicular Unit Extraction) 

ขั้นตอนการปลูกผม FUE (Follicular Unit Extraction)
  • แพทย์ผู้มีความสามารถด้านการปลูกผมทำการออกแบบและวาดแนวผมที่จะปลูกในบริเวณที่มีปัญหา แพทย์จะมีการแนะนำเรื่องทรงผมให้เข้ากับรูปหน้า รวมถึงฟังความต้องการของคนไข้ด้วย หลังจากนั้นแพทย์จะคำนวณจำนวนกราฟที่ต้องการปลูก
  • เมื่อได้จำนวนกราฟที่ต้องการใช้ จะเป็นขั้นตอนการย้ายรากผม เริ่มจากแพทย์คัดเซลล์รากผมบริเวณท้ายทอย หลังจากนั้นทำการโกนผมบริเวณนั้นออก ฉีดยาชาให้ทั่ว 
  • หลังยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จะใช้เครื่องมือพิเศษทางการแพทย์ที่มีหัวเจาะขนาดเล็กประมาณ 0.6-1.0 มิลลิเมตร เจาะผ่านผิวหนังตามแนวขนานกับรากผม แล้วดึงเซลล์รากผมออกมาจากหนังศีรษะและนำไปเก็บไว้ในน้ำเลี้ยงเซลล์ เพื่อรักษาคุณภาพรากผม
  • หลังจากนั้นเป็นขั้นตอนการปลูกผม แพทย์จะเริ่มด้วยการฉีดยาชาในบริเวณที่จะปลูกผม พร้อมทั้งฉีดยาห้ามเลือดที่ผสมในน้ำเกลือ เพื่อให้หนังศีรษะโป่งและพองตัวขึ้น เพื่อให้ง่ายต่อการใส่รากผมเข้าไป จากนั้นแพทย์จะทำการเจาะรู และนำเซลล์รากผมใส่ลงในรูที่เจาะเตรียมไว้จนครบบริเวณ 

หลักการทำงานของการปลูกผม FUE

การปลูกผม FUE ทำงานคล้ายกับการปลูกถ่ายอวัยวะ แพทย์จะใช้เครื่องมือไฟฟ้าพร้อมหัวเจาะขนาดเล็กเพียง 0.8-1.2 มม. เจาะเก็บรากผมทีละหน่วยจากบริเวณท้ายทอย ซึ่งเป็นบริเวณที่มีรากผมแข็งแรงและไม่ได้รับผลกระทบจากฮอร์โมน DHT จากนั้นจะนำรากผมเหล่านี้ไปปลูกในตำแหน่งที่ต้องการทีละราก ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

ข้อดีปลูกผม FUE

ข้อดีปลูกผม FUE
  • คุณภาพของกราฟ 90-95%
  • รอยแผลด้านหลังจะเป็นจุดเล็กๆ ขนาดประมาณ 1 มิลลิเมตร
  • แผลหายได้เร็ว
  • รอยแผลแทบมองไม่เห็น
  • สามารถไว้ผมสั้นได้
  • สามารถใช้เส้นขนเคราหรือขนหน้าอกมาปลูกผมได้

ปลูกผม FUE เหมาะกับใคร?

ปลูกผม FUE เหมาะกับใคร?
  • ผู้ที่มีปัญหาผมบางกลางศีรษะ
  • ผู้ที่มีปัญหาหัวล้าน หัวเถิก หรือหน้าผากกว้าง
  • ผู้ที่ต้องการปรับโครงหน้า เช่น ให้ใบหน้าดูอ่อนวัยลง ให้ใบหน้าดูเรียวลง
  • ผู้ที่มีรอยแผลที่ศีรษะจากการได้รับบาดเจ็บหรือหลังการผ่าตัด

การเตรียมตัวก่อนปลูกผม FUE

  • งดดื่มชา กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  • ควรรับประทานอาหารมาให้เรียบร้อย เนื่องจากขั้นตอนปลูกผมใช้เวลาค่อนข้างนาน
  • ควรรับประทานยาประจำตัวให้เรียบร้อย เช่น ยาเบาหวาน ยาลดความดัน (ยกเว้นยาที่ทำให้เลือดไม่แข็งตัว)
  • แนะนำให้ใส่เสื้อเชิ้ตที่มีกระดุมด้านหน้า หรือเสื้อยืดคอกว้าง เพื่อความสะดวกในการเปลี่ยนเสื้อ 
  • สระผมมาให้เรียบร้อย

การดูแลหลังปลูกผม FUE

  • ห้ามแกะสะเก็ดแผลเด็ดขาดโดยสะเก็ดแผลจะหลุดเองภายใน 2 สัปดาห์
  • งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นเวลา 2 วัน เพื่อป้องกันเลือดออกและการบวมที่ศีรษะ
  • งดออกกำลังกายประมาณ 3-4 วัน และงดกีฬาที่มีการกระทบกระแทก เช่น ฟุตบอลอย่างน้อย 1 เดือน
  • งดว่ายน้ำและซาวน่า เป็นเวลา 1 เดือน
  • เลี่ยงการตากแดดเป็นเวลานานๆ 
  • สวมหมวกได้ แต่อย่าสวมแน่นเกินไป
  • อาบน้ำและล้างหน้าได้ตามปกติ
  • หลังปลูกผม 1 วัน สามารถสระผมได้ตามปกติ โดยสัปดาห์แรกใช้เป็นแชมพูอ่อนๆ และแนะนำเป็นน้ำอุณหภูมิห้อง
  • สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ 

ปลูกผม FUE มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง

แม้การ ปลูกผม FUE จะปลอดภัยและมีผลข้างเคียงน้อย แต่ก็อาจมีอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้

  • อาการบวมและรอยแดง : บริเวณที่ปลูกผมอาจมีอาการบวมและรอยแดงเล็กน้อย ซึ่งจะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์
  • อาการคันและสะเก็ดแผล : อาจมีอาการคันและมีสะเก็ดแผลเล็ก ๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการฟื้นตัว แต่ไม่ควรเกาหรือแกะ
  • ผมร่วงชั่วคราว (Shock Loss) : ในช่วง 2-3 เดือนแรก ผมที่ปลูกใหม่อาจหลุดร่วงชั่วคราว ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ผมใหม่จะเริ่มงอกกลับขึ้นมาแทนที่

ปลูกผม FUE ต่างจาก FUT และ DHI อย่างไร

ปลูกผม FUE แตกต่างจาก FUT ตรงที่ FUE ไม่ต้องผ่าตัดเป็นแผลยาว แต่ใช้วิธีเจาะดึงทีละกราฟต์ ทำให้ไม่มีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ ส่วน DHI นั้นถือเป็นเทคนิคที่พัฒนามาจาก FUE โดยใช้ปากกาปลูกผมในการเจาะและปลูกในขั้นตอนเดียว ทำให้สามารถควบคุมทิศทางได้แม่นยำกว่า แต่โดยรวมแล้วทั้ง FUE และ DHI ต่างก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการปลูกผม

ปลูกผม FUE ราคาเท่าไหร่?

ราคาของการ ปลูกผม FUE จะแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โดยแพทย์จะพิจารณาจากจำนวนกราฟต์ที่ต้องใช้และระดับความยากง่ายของการทำหัตถการ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ปลูกผม FUE ราคา จะคำนวณเป็นกราฟต์ การประเมินราคาที่แม่นยำที่สุดคือการเข้าปรึกษาแพทย์ผู้มีความสามารถโดยตรง ซึ่งแพทย์จะวิเคราะห์ปัญหาและออกแบบการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ ทำให้การลงทุนมีความคุ้มค่าและได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจที่สุด

ปลูกผม FUE คุ้มค่าหรือไม่?

แม้ว่าการปลูกผม FUE ราคาจะสูงกว่าวิธีปลูกผมแบบดั้งเดิม แต่ถือว่าคุ้มค่าในระยะยาว เพราะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่มีรอยแผลเป็น และไม่ต้องกังวลเรื่องทรงผมในอนาคต สามารถไว้ผมสั้นหรือโกนศีรษะได้โดยไม่เห็นรอยแผล นอกจากนี้ เส้นผมที่ปลูกจะเป็นผมของตัวเองที่ย้ายมาจากท้ายทอย จึงเป็นผมที่แข็งแรงและเข้ากับผมเดิมได้อย่างกลมกลืน

ปลูกผม FUE คุ้มค่าหรือไม่?

คำถามที่พบบ่อย

ปลูกผม FUE เจ็บไหม?

  • ในการปลูกผม FUE ขั้นตอนจะมีการฉีดยาชา ซึ่งจะเจ็บแค่ตอนฉีดยาชาในเข็มแรกๆ เท่านั้น หลังจากยาชาออกฤทธิ์จะไม่มีอาการเจ็บใดๆ 

ปลูกผม FUE ใช้เวลาในการปลูกนานเท่าไหร่?

  • การปลูกผม FUE ใช้เวลาประมาณ 5-8 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟ และการปลูกผม FUE จะใช้เวลานานกว่าการปลูกผม FUT

ปลูกผม FUE อยู่ได้ถาวรไหม?

  • การปลูกผม FUE เป็นการปลูกผมที่ถาวร เพราะใช้รากผมของตัวเองในการปลูกผม

ทำไมต้องปลูกผม FUE ที่ Hair Clinique 

ทำไมต้องปลูกผม FUE ที่ Hair Clinique
  • แพทย์ที่ได้รับรองโดย American Board of Hair Restoration Surgery จาก USA เป็น 1 ใน 200 คนทั่วโลก
  • แพทย์มีประสบการณ์ด้านการปลูกผมมากกว่า 10 ปี
  • แพทย์ปลูกผมมาแล้วกว่า 3,000 เคส
  • แพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านการออกแบบทรงผมและไรผมให้ดูเป็นธรรมชาติ

รีวิวปลูกผม FUE

บริการอื่นๆ ของ Hair Clinique by SLC

Hair Transplant