คุณเคยพบเจอกับปัญหาหัวเหม็นที่ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจในการเข้าสังคมหรือไม่? แม้จะรักษาความสะอาดอย่างดีแล้วแต่กลิ่นไม่พึงประสงค์ยังคงเกิดขึ้น อาการหัวเหม็นนี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุและสามารถแก้ไขได้หากเข้าใจต้นตอของปัญหา มาทำความเข้าใจสาเหตุและวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพกันในบทความนี้
ปัญหาหัวเหม็นเกิดขึ้นจากการสะสมของเหงื่อ เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียบนหนังศีรษะ เมื่อแบคทีเรียย่อยสลายสารต่าง ๆ เหล่านี้จะปล่อยกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา โดยเฉพาะในสภาวะที่หนังศีรษะมีความชุ่มชื้นและอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเพิ่มจำนวนของเชื้อโรค ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับขึ้นได้
ภาวะผมเหม็นง่าย อาจเกิดจากต่อมไขมันที่อยู่กับรากผมผลิตไขมันออกมามากจนเกินไป จนทำให้หนังศีรษะมัน และดูดกลิ่นจากอากาศเข้าเส้นผม ส่งผลให้เส้นผมมีกลิ่นเหม็นง่ายกว่าปกติ
คนที่มีปัญหาผมมัน จะทำให้กลิ่นติดผมได้ง่ายกว่าเดิม อาจเป็นเพราะต่อมเหงื่อบนหนังศีรษะผลิตเหงื่อออกมามาก ทำให้เกิดภาวะอับชื้นบนหนังศีรษะ ซึ่งเป็นต้นเหตุของกลิ่นเหม็น
สำหรับคนที่มีผมเส้นเล็กเกินไป อาจมีแนวโน้มสูงที่ผม และหนังศีรษะจะมันกว่าปกติ ซึ่งส่งผลให้กลิ่นติดเส้นผมได้ง่าย
ในกรณีที่เราไม่เคยเกิดอาการผมเหม็นมาก่อน แล้วเพิ่งมามีอาการนี้ได้ไม่นาน อาจเป็นไปได้ว่าฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติ ที่อาจเกิดมาจากความเครียด หรือยาบางชนิด ที่ส่งผลให้เกิดภาวะผมมัน และมีกลิ่นเหม็นบนผม
โรคเซ็บเดิร์ม (Seborrheic dermatitis) หรือโรคผื่นผิวหนังอักเสบบริเวณผิวมัน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมเหม็น เนื่องด้วยผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีอาการอักเสบของหนังศีรษะ จะมีอาการแกะหรือเกาจนมีน้ำเหลืองเยิ้มออกมา หากทิ้งไว้นาน ไม่รักษา สะเก็ดจะหนามากจนอาจทำให้ผมร่วง และเกิดกลิ่นเหม็นได้
ลองมาเช็กกันง่าย ๆ เมื่อเราไปยืนใกล้ร้านปิ้งย่าง หรือบริเวณใกล้เคียงที่เขากำลังทำอาหาร ผมของเราอาจจะติดกลิ่นอาหาร กลิ่นควัน หรือกลิ่นมลพิษตามท้องถนน แต่เมื่อผ่านไป 1 วัน กลิ่นที่ติดจะค่อย ๆ จางลงไปเอง หรือเมื่อสระผมกลิ่นเหม็นก็จะหายไป แต่หากกลิ่นเหล่านั้นยังคงอยู่ เสี่ยงว่าอาจจะกำลังเป็นภาวะผมเหม็น หรือ Smelly Hair Syndrome (SHS)
ควรสระผมสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง หรือวันเว้นวัน ใช้น้ำอุณหภูมิปกติในการล้างผม ทำความสะอาดหนังศีรษะถึงรากผม และเป่าผมให้แห้งสนิทหลังสระเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อรา
เลือกใช้แชมพูที่ควบคุมความมัน เช่น Ketoconazole, Selenium Sulfide หรือ Zinc Pyrithione ใช้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อควบคุมการผลิตน้ำมันและลดการระคายเคือง
ใช้น้ำมันธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันมะกอกหมักผมก่อนสระ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน แต่ต้องล้างออกให้สะอาด
หลีกเลี่ยงพื้นที่ร้อนชื้น กลิ่นแรง หรือมลภาวะ เพราะสิ่งเหล่านี้กระตุ้นการผลิตเหงื่อและทำให้เส้นผมดูดซับกลิ่นได้ง่าย
จำกัดอาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น กระเทียม หัวหอม และเครื่องเทศ เพราะส่งผลต่อกลิ่นของเหงื่อและกลิ่นหนังศีรษะ
หากปัญหาหัวเหม็นของคุณยังไม่ดีขึ้นแม้จะปฏิบัติตามวิธีการต่าง ๆ แล้ว Hair Clinique by SLC คลินิกปลูกผมพร้อมให้คำปรึกษาและการรักษาด้วยทีมแพทย์ผู้มีความสามารถด้านการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ เรามีเทคโนโลยีและวิธีการรักษาที่ทันสมัย รวมถึงการปลูกผมสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วงร่วมด้วย เพื่อให้คุณกลับมามีความมั่นใจและสุขภาพผมที่ดีอย่างยั่งยืน