หลายคนอาจเกิดปัญหาที่สระผมทุกวันแต่ก็ยังเหม็นเร็วทุกวัน ไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงเหม็นเร็วได้ขนาดนี้ บางครั้งยังไม่ได้ก้าวออกจากบ้านก็รู้สึกถึงกลิ่นเหม็นนิดๆ แล้ว จนอาจทำให้เกิดบางคนเกิดอาการไม่มั่นใจ ซึ่งอาการผมเหม็นง่ายกว่าปกติ สระผมทุกวันก็ไม่ช่วย อาการแบบนี้อาจเรียกว่าเป็นภาวะ Smelly Hair Syndrome (SHS)
บอกก่อนเลยว่าภาวะ Smelly Hair Syndrome (SHS) ไม่ถึงกับเรียกว่าเป็นโรค แค่เป็นภาวะผิดปกติของร่างกายที่ส่งผลให้เส้นผมและหนังศีรษะเกิดกลิ่นเหม็นได้ง่าย
สาเหตุของผมเหม็นง่าย
1. ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไป ภาวะผมเหม็นง่าย อาจเกิดจากต่อมไขมันที่อยู่กับรากผมผลิตไขมันออกมามากจนเกินไป จนทำให้หนังศีรษะมัน และดูดกลิ่นจากอากาศเข้าเส้นผม ส่งผลให้เส้นผมมีกลิ่นเหม็นง่ายกว่าปกติ
2. หนังศีรษะผลิตต่อมเหงื่อมากเกินไป คนที่มีปัญหาผมมัน จะทำให้กลิ่นติดผมได้ง่ายกว่าเดิม อาจเป็นเพราะต่อมเหงื่อบนหนังศีรษะผลิตเหงื่อออกมามาก ทำให้เกิดภาวะอับชื้นบนหนังศีรษะ ซึ่งเป็นต้นเหตุของกลิ่นเหม็น
3. ผมเส้นเล็ก สำหรับคนที่มีผมเส้นเล็กเกินไป อาจมีแนวโน้มสูงที่ผม และหนังศีรษะจะมันกว่าปกติ ซึ่งส่งผลให้กลิ่นติดเส้นผมได้ง่าย
4. ฮอร์โมนเกิดการเปลี่ยนแปลง ในกรณีที่เราไม่เคยเกิดอาการผมเหม็นมาก่อน แล้วเพิ่งมามีอาการนี้ได้ไม่นาน อาจเป็นไปได้ว่าฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติ ที่อาจเกิดมาจากความเครียด หรือยาบางชนิด ที่ส่งผลให้เกิดภาวะผมมัน และมีกลิ่นเหม็นบนผม
5. ผลข้างเคียงจากโรคเซ็บเดิร์ม โรคเซ็บเดิร์ม (Seborrheic dermatitis) หรือโรคผื่นผิวหนังอักเสบบริเวณผิวมัน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมเหม็น เนื่องด้วยผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีอาการอักเสบของหนังศีรษะ จะมีอาการแกะหรือเกาจนมีน้ำเหลืองเยิ้มออกมา หากทิ้งไว้นาน ไม่รักษา สะเก็ดจะหนามากจนอาจทำให้ผมร่วง และเกิดกลิ่นเหม็นได้
เสี่ยงเป็นภาวะผมเหม็นง่ายหรือเปล่า?
ลองมาเช็คกันง่ายๆ เมื่อเราไปยืนใกล้ร้านปิ้งย่าง หรือบริเวณใกล้เคียงที่เขากำลังทำอาหาร ผมของเราอาจจะติดกลิ่นอาหาร กลิ่นควัน หรือกลิ่นมลพิษตามท้องถนน แต่เมื่อผ่านไป 1 วัน กลิ่นที่ติดจะค่อยๆ จางลงไปเอง หรือเมื่อสระผมกลิ่นเหม็นก็จะหายไป แต่หากกลิ่นเหล่านั้นยังคงอยู่ เสี่ยงว่าอาจจะกำลังเป็นภาวะผมเหม็น หรือ Smelly Hair Syndrome (SHS)
10 วิธีแก้ผมเหม็น
ถ้ารู้สึกว่าสระผมบ่อยแค่ไหนก็ไม่ทำให้กลิ่นเหม็นหายไปจากเส้นผมได้เลย ลองมาทำทรีทเม้นท์ทางการแพทย์ที่เป็นการฉายแสง LED ให้เส้นผม ที่ลงลึกถึงรากผมด้วย LED Laser Therapy (Click! ดูข้อมูลเพิ่มเติม)
ขอขอบคุณข้อมูลส่วนหนึ่งจาก health.kapook.com