ชวนรู้จักลักษณะผม พร้อมวิธีดูแลเส้นผมแต่ละประเภท

เคยสงสัยไหมว่าทำไมผลิตภัณฑ์ดูแลผมตัวเดียวกันใช้กับคนต่างคนถึงให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน หรือทำไมทรงผมแบบเดียวกันพอตัดแล้วถึงดูไม่เหมือนกัน คำตอบอยู่ที่ลักษณะผมของแต่ละคนที่แตกต่างกันตามธรรมชาติ การเข้าใจลักษณะผมของตัวเองจึงเป็นกุญแจสำคัญในการดูแลเส้นผมให้สวยงามและสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

ส่วนประกอบของผม

ก่อนจะเข้าใจลักษณะผมแต่ละประเภท เราควรรู้จักโครงสร้างพื้นฐานของผมก่อน ผมของเราประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วนหลักคือ เส้นผม รากผม และต่อมไขมัน ซึ่งทำงานร่วมกันเป็นหน่วยเดียวที่เรียกว่า ต่อมผม (Hair Follicle)

เส้นผม (Hair)

เส้นผม ที่เราเห็นเป็นส่วนที่ยื่นออกมาจากหนังศีรษะ ประกอบด้วยโปรตีนเคราติน เส้นผมเกิดจากการแบ่งตัวของเซลล์รากผมอย่างต่อเนื่อง เซลล์ที่ตายแล้วจะทับถมกันและผลักดันออกมาเป็นเส้นผมยาวที่เราเห็น การเจริญเติบโตของเส้นผมขึ้นอยู่กับสุขภาพของรากผมและการไหลเวียนของเลือด

รากผม (Hair Root)

รากผม เป็นส่วนที่ฝังตัวลึกในหนังศีรษะ มีต่อมรากผมประมาณ 5 ล้านต่อมบนศีรษะ แต่ละรากผมมีปุ่มปลายที่มีเส้นเลือดและเส้นประสาทมาเลี้ยง หากปุ่มปลายนี้เสียหายหรือฝ่อ จะทำให้เส้นผมบริเวณนั้นหยุดการเจริญเติบโตและอาจหายไปอย่างถาวร

ต่อมไขมัน (Sebaceous Glands)

ต่อมไขมัน ที่อยู่ตรงรากผมทำหน้าที่ผลิตน้ำมันธรรมชาติหรือซีบัม (Sebum) เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหนังศีรษะและเส้นผม การทำงานของต่อมนี้ต้องสมดุล หากผลิตน้ำมันมากเกินไปจะทำให้ผมมัน หากน้อยเกินไปจะทำให้ผมแห้ง

โครงสร้างของเส้นผม

โครงสร้างของเส้นผม แบ่งออกเป็น 3 ชั้นหลัก เมื่อตัดเส้นผมตามขวางจะเห็นชั้นต่างๆ ที่มีหน้าที่และลักษณะแตกต่างกัน ความเข้าใจเรื่องนี้จะช่วยให้เราดูแลผมได้อย่างถูกวิธี

ชั้นเกล็ดผม (Cuticle)

ชั้นเกล็ดผม เป็นชั้นนอกสุดของเส้นผมที่ทำหน้าที่ปกป้องส่วนใน ประกอบด้วยโปรตีนโปร่งใสที่เรียงซ้อนคล้ายเกล็ดปลา ชั้นนี้ช่วยป้องกันการสูญเสียโปรตีนและทำให้เส้นผมดูเงางาม เมื่อเกล็ดผมเสียหายจะทำให้ผมดูหยาบและขาดความเงางาม

ชั้นเนื้อผม (Cortex)

ชั้นเนื้อผม เป็นส่วนที่มีปริมาณมากที่สุดคือ 80% ของเส้นผมทั้งหมด ประกอบด้วยโปรตีนเส้นใย น้ำ และเม็ดสีเมลานิน ชั้นนี้เป็นตัวกำหนดลักษณะผม ที่สำคัญ เช่น ความหนาของเส้นผม ความแข็งแรง และสีผมธรรมชาติ

ชั้นแกนผม (Medulla)

ชั้นแกนผม เป็นส่วนในสุดของเส้นผม จะพบเฉพาะในผมเส้นหนามาก ประกอบด้วยช่องว่างและอากาศเป็นหลัก ไม่ใช่ทุกเส้นผมที่จะมีชั้นนี้ โดยเฉพาะผมเส้นบางหรือเส้นเล็กมักจะไม่มีชั้นแกนผม

ลักษณะผมแต่ละประเภท

การรู้จักลักษณะผมของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญเพื่อเลือกวิธีดูแลที่เหมาะสม ผมแต่ละคนมีลักษณะที่แตกต่างกันตามพันธุกรรมและปัจจัยแวดล้อม มาดูกันว่าผมของคุณเป็นแบบไหน

1. ผมธรรมดา (Normal hair)

คนที่มีผมธรรมดาจะมีลักษณะเส้นผมที่เรียบลื่นเงางาม มีความชุ่มชื่น ดูมีน้ำหนัก สามารถจัดแต่งทรงผมได้ง่าย ซึ่งคนที่มีผมธรรมดาจะมีต่อมไขมัน (Sebaceous gland) ซึ่งอยู่ภายใต้หนังศีรษะ ผลิตไขผิวหนัง (Sebum) ออกมาเคลือบเส้นผมในปริมาณที่พอเหมาะ

การดูแลเส้นผมธรรมดา

• ควรใช้แชมพูอ่อนๆ สระผมให้สม่ำเสมอ และล้างให้สะอาด
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดด
• อย่าพยายามอยู่ในอากาศที่มีความชื้นต่ำเป็นเวลานาน
• หวีผมบ่อยเกินไป
• การใช้ความร้อนจากไดร์เป่าผมนานเกินไป
• งดการใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมสีผม การดัดหรือยืดผม

2. ผมมัน (Oily hair)

ลักษณะเส้นผมของคนที่มีผมมัน เส้นผมจะมีความทึบมัว มันเยิ้ม เหนียวเหนอะหนะ ส่งผลให้สิ่งสกปรกติดเส้นผมได้ง่าย และหนังศีรษะมีความมันรวมไปถึงใบหน้าด้วย ซึ่งสาเหตุหลักๆ มาจากต่อมไขมันผลิตไขมันออกมามากเกินไป และมีปัจจัยภายนอก เช่น การที่เส้นผมสัมผัสอากาศที่มีความชื้นมาก หรือการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผม จัดแต่งทรงผมที่มีส่วนประกอบของน้ำมันมากเกินไป

การดูแลเส้นผมมัน

• ควรสระผมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่เกาะตามเส้นผม และน้ำที่ใช้สระผมควรเป็นน้ำเย็น
• หากต้องการใช้ครีมนวดผม ควรใช้แค่บริเวณที่ปลายผมเท่านั้น
• หลีกเลี่ยงครีมนวดผม หรือผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นและปริมาณน้ำมันมาก
• หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เพราะจะไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน

3. ผมแห้ง (Dry hair)

ลักษณะผมที่แห้ง จะดูหยาบ ฟู เปราะบางขาดง่าย ขาดน้ำหนักและความชุ่มชื้น ทำทรงผมต่างๆ ได้ยาก เมื่อผมแห้งมากจะทำให้เกิดผมแตกปลาย ซึ่งสาเหตุหลักๆ ก็จะเป็นต่อมไขมันผลิตไขผิวหนังออกมาน้อยเกินไป ถ้าเป็นปัจจัยภายนอก เช่น ผมสัมผัสกับแสงแดด น้ำทะเล หรือคลอรีนในสระว่ายน้ำมากเกินไป ส่งผลให้ผมขาดความชุ่มชื้น และการสระผมด้วยแชมพูที่มีฤทธิ์เป็นด่างมากเกินไป หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำลายผิวชั้นนอกของผม จำพวกผลิตภัณฑ์ย้อมสีผม กัดสีผม หรือดัดผม

การดูแลเส้นผมแห้ง

• ไม่ควรสระผมบ่อย และทางที่ดีไม่ควรไว้ผมยาว เพราะจะทำให้ผมแตกปลายได้ง่าย
• หลีกเลี่ยงการหวีผมแรงๆ
• งดการใช้ความร้อนจากไดร์เป่าผม
• งดการดัด หรือการทำสีผมบ่อยๆ
• ทุกครั้งเวลาสระผมควรใช้ครีมนวดผม

4. ผมผสม

ผมผสม เป็นลักษณะผม ที่โคนผมมันแต่ปลายผมแห้ง เกิดจากการดูแลไม่ถูกวิธีหรือผมถูกเคมีทำลาย

การดูแลเส้นผมผสม

• ใช้แชมพูสำหรับผมมันที่หนังศีรษะ
• ทาครีมนวดเฉพาะที่ปลายผม
• ลดการใช้ความร้อนจัดแต่งผม
• ป้องกันผมจากแสงแดดด้วยหมวกหรือร่ม

5. ผมบาง

ผมบาง เป็นลักษณะผม ที่เส้นผมมีขนาดเล็ก ดูบาง ขาดหลุดร่วงได้ง่าย สีผมดูอ่อนกว่าปกติ

การดูแลผมบาง

• เลือกแชมพูและครีมนวดสูตรเบาสบาย
• หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผมดูหนัก
• ไม่สางผมตอนเปียกเพราะจะขาดง่าย
• ทานอาหารบำรุงหรือวิตามินเสริม
• ป้องกันผมจากฝุ่นละอองด้วยหมวก

6. ผมหนา

ผมหนา เป็นลักษณะผม ที่เส้นผมใหญ่อวบ สีเข้มเนื่องจากมีเมลานินมาก แข็งแรงแต่ดูกระด้างชี้ฟู จัดทรงยาก

การดูแลผมหนา

• ใช้ผลิตภัณฑ์ลดการชี้ฟู เช่น เซรั่ม สเปรย์
• สระน้ำสุดท้ายด้วยน้ำอุณหภูมิปกติหรือเย็น
• บำรุงผมให้นุ่มลื่นสางง่าย
• รักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ

7. ผมหนาปานกลาง

ผมหนาปานกลาง เป็นลักษณะผม ที่สมดุล ไม่หนาหรือบางจนเกินไป ดูแลง่าย

การดูแลผมหนาปานกลาง

• รักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
• เลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผม
• บำรุงผมสม่ำเสมอเพื่อรักษาสมดุล
• ป้องกันไม่ให้ผมเสียสมดุลความชุ่มชื้น

Hair Clinique by SLC พร้อมดูแลเส้นผมคุณให้สวยงามเป็นธรรมชาติ

หากคุณต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการดูแลลักษณะผมของคุณอย่างเฉพาะเจาะจง Hair Clinique by SLC พร้อมให้บริการด้วยทีมแพทย์ผู้มีความสามารถด้านการปลูกผมและประสบการณ์มากกว่า 10 ปี เรามีบริการปลูกผม FUE ปลูกผม FUT ปลูกคิ้ว และเป็นคลินิกปลูกผมที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย หากคุณกำลังมองหาปลูกผมที่ไหนดี เรายินดีให้คำปรึกษาและดูแลเส้นผมคุณให้สวยงามอย่างแลดูเป็นธรรมชาติ