Open Daily : 10:00 - 20:00
Call center : 095-406-9423-4
Line ID : @HairCliniquebySLC

ปลูกผม DHI คืออะไร? เทคนิคปลูกผมที่แม่นยำและเป็นธรรมชาติ

การปลูกผม DHI เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดในการแก้ปัญหาผมบางและศีรษะล้าน ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยเทคโนโลยีปากกาปลูกผมที่ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ฟื้นตัวเร็ว และมีความหนาแน่นมากกว่าการปลูกผมแบบดั้งเดิม แต่จะดีจริงและคุ้มค่าแค่ไหน มาหาคำตอบไปพร้อมกัน

ปลูกผม DHI คืออะไร?

ปลูกผม DHI (Direct Hair Implantation) เป็นเทคนิคทันสมัยที่พัฒนาต่อยอดมาจากวิธี FUE โดยใช้อุปกรณ์พิเศษที่เรียกว่า “ปากกาปลูกผม” (Implanter Pen) ในการเก็บและปลูกรากผมโดยตรง ทำให้ไม่ต้องเจาะรูเปิดแผลก่อน สามารถควบคุมทิศทาง มุม และความลึกในการปลูกได้แม่นยำกว่า ผลลัพธ์จึงดูเป็นธรรมชาติและมีความหนาแน่นมากขึ้น

ปลูกผม DHI ต่างจากวิธีอื่นอย่างไร

การปลูกผมมีหลายวิธี แต่เทคนิคที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันคือการปลูกผมแบบ FUE (Follicular Unit Extraction) ซึ่งเป็นการย้ายรากผมจากบริเวณท้ายทอยมาปลูกในส่วนที่ต้องการ โดย ปลูกผม DHI ถือเป็นเทคนิคย่อยของ FUE แต่มีความแตกต่างที่ขั้นตอนการปลูก เพราะเทคนิค DHI ใช้เครื่องมือพิเศษที่เรียกว่า “ปากกา Implanter” ซึ่งสามารถเจาะและปลูกรากผมได้ในขั้นตอนเดียว ไม่ต้องเจาะรูก่อนเหมือนเทคนิค FUE ทั่วไป

หลักการทำงานของการปลูกผม DHI

การปลูกผม DHI มีหลักการทำงานที่เป็นระบบและแม่นยำ ประกอบด้วยขั้นตอนสำคัญดังนี้

  • ออกแบบแนวเส้นผมและไรผมให้เหมาะกับโครงหน้า อายุ และบุคลิกของผู้รับบริการ
  • ประเมินคุณภาพและจำนวนเส้นผมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อคำนวณกราฟผมที่ต้องใช้
  • เก็บกราฟผมจากบริเวณท้ายทอยด้วยเครื่องเจาะขนาดเล็กพิเศษ เพื่อลดการบาดเจ็บ
  • นำกราฟผมมาคัดแยกและแช่ในสารละลายพิเศษที่ช่วยให้อัตราการงอกสูงถึง 95-98%
  • ใช้ปากกา Implanter Pen บรรจุกราฟผมและปักลงบนศีรษะโดยตรง โดยไม่ต้องเจาะรูก่อน

ข้อดีของการปลูกผม DHI

การปลูกผม DHI มีข้อดีหลายประการที่ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาผมบาง

  • ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า เพราะควบคุมทิศทางและมุมของเส้นผมได้แม่นยำ
  • ความหนาแน่นของเส้นผมมากกว่า สามารถปลูกได้ถี่กว่าวิธีอื่น
  • ฟื้นตัวเร็วกว่า เนื่องจากบาดแผลมีขนาดเล็กมาก
  • ไม่เกิดรอยแผลเป็นที่เห็นได้ชัด
  • ลดการสัมผัสกราฟผม ทำให้รากผมเสียหายน้อยและอัตราการงอกสูงขึ้น
  • สามารถปลูกผมยาวได้โดยไม่ต้องโกนศีรษะทั้งหมด (เฉพาะบางกรณี)

ใครที่เหมาะสมกับการปลูกผม DHI

ปลูกผม DHI เหมาะสำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติต่อไปนี้

  • ผู้ที่มีปัญหาผมร่วงจากฮอร์โมนเพศชาย (Androgenic Alopecia) ทั้งในรูปแบบ Male Pattern และ Female Pattern
  • ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เนื่องจากรูปแบบการผมร่วงจะชัดเจนขึ้น
  • ผู้ที่มีความหนาแน่นของเส้นผมในบริเวณต้นกำเนิด (Donor Area) มากกว่า 40 กราฟต่อตารางเซนติเมตร
  • ผู้ที่มีเส้นผมหนา จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าผู้ที่มีเส้นผมบางอยู่แล้ว
  • ผู้ที่มีความคาดหวังสมเหตุสมผล เข้าใจข้อจำกัดและผลลัพธ์ที่อาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล

การเตรียมตัวก่อนปลูกผม DHI

ก่อนเข้ารับบริการปลูกผม DHI ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้

  • งดใช้ยาในกลุ่ม Aspirin และ Beta Blocker อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • งดวิตามินและอาหารเสริมทุกชนิด
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ ประมาณ 3 วัน
  • งดรับประทานอาหารหมักดอง
  • งดออกกำลังกายหักโหมก่อนทำ 2-3 วัน
  • เตรียมเสื้อเชิ้ตกระดุมหน้า เพื่อสวมใส่ได้สะดวกหลังทำ
  • พักผ่อนให้เพียงพอและลดความเครียด

การดูแลตัวเองหลังปลูกผม DHI

หลังรับบริการปลูกผม DHI ควรดูแลตัวเองดังนี้

  • นอนยกศีรษะสูง 45 องศา ในช่วง 2-3 วันแรก เพื่อลดอาการบวม
  • งดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • งดออกกำลังกายหรือยกของหนักประมาณ 2 สัปดาห์
  • สวมหมวกผ้าเมื่อต้องออกนอกบ้าน แต่ระวังไม่ให้กดทับบริเวณแผลผ่าตัด
  • หลีกเลี่ยงการให้แผลโดนน้ำในช่วง 2-3 วันแรก
  • ไม่ควรแกะหรือเกาสะเก็ดแผล ปล่อยให้หลุดลอกตามธรรมชาติ
  • ทำความสะอาดและดูแลแผลตามคำแนะนำของแพทย์
  • รับประทานยาหรือใช้สเปรย์ตามที่แพทย์สั่ง

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังปลูกผม DHI

แม้ว่าการปลูกผม DHI จะมีความเสี่ยงต่ำ แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงได้บ้าง เช่น อาการบวม รอยแดง หรือรู้สึกไม่สบายในบริเวณที่ปลูก ซึ่งเป็นเรื่องปกติและจะหายไปเองใน 1-2 สัปดาห์ แต่ในบางกรณีอาจพบผลข้างเคียงที่ต้องปรึกษาแพทย์ เช่น อาการแพ้ยา การติดเชื้อ หรือภาวะเลือดออกไม่หยุด

อาการแพ้ยา

ในการปลูกผม DHI แพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะที่เพื่อบรรเทาอาการปวดและลดการเลือดออก บางรายอาจมีอาการแพ้ยาชา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน มึนศีรษะ หรือหัวใจเต้นเร็ว หากมีอาการดังกล่าว ควรแจ้งแพทย์ทันที แม้โอกาสเกิดอาการแพ้รุนแรงจะมีน้อยมาก แต่ทางคลินิกมีการเตรียมพร้อมรับมือกับกรณีฉุกเฉินเสมอ

การติดเชื้อ

การติดเชื้อมักพบใน 1-7 วันแรกหลังการปลูกผม DHI โดยจะมีลักษณะเป็นตุ่มหนองคล้ายสิวแต่ขนาดใหญ่กว่า มีหัวสีขาว และขนาดจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ การติดเชื้อเป็นภาวะที่อันตรายที่สุด เพราะเชื้อจะทำลายรากผมและสเต็มเซลล์ที่ยังอ่อนแอ และยับยั้งการสร้างเส้นเลือดใหม่ ควรรีบพบแพทย์ทันทีหากสงสัยว่ามีการติดเชื้อ

ภาวะเลือดออกไม่หยุด

หลังการปลูกผม DHI หากมีเลือดไหลไม่หยุด ควรใช้นิ้วกดเบาๆ บริเวณที่มีเลือดออกเพื่อห้ามเลือดเบื้องต้น การปล่อยให้เลือดไหลออกอย่างต่อเนื่องอาจทำให้กราฟผมหลุดออกจากแรงดันเลือด และเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หากเลือดไม่หยุดไหลภายใน 10-15 นาที ควรติดต่อแพทย์โดยเร็วที่สุด

ปลูกผม DHI ราคาเท่าไหร่?

ราคาของการ ปลูกผม DHI โดยทั่วไปจะสูงกว่าการปลูกผมแบบ FUE เพราะเป็นเทคนิคที่ต้องใช้ความละเอียดและเครื่องมือพิเศษในการทำหัตถการ โดยราคาจะขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟต์ผมที่ต้องการปลูก ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วราคาจะอยู่ประมาณ 30-50 บาทต่อกราฟต์ หรือหากต้องการปลูกประมาณ 2,000 กราฟต์ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 60,000 – 100,000 บาท

DHI หรือ FUE แบบไหนดีกว่า?

การตัดสินใจระหว่าง ปลูกผม DHI หรือ FUE ควรพิจารณาจากหลายปัจจัย ทั้งสภาพผมเดิม งบประมาณ และผลลัพธ์ที่คาดหวัง การปลูกผมแบบ DHI เหมาะกับคนที่ต้องการความละเอียดสูง ผมปลูกในพื้นที่จำกัด และต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ส่วน FUE เหมาะกับผู้ที่ต้องการปลูกผมในพื้นที่กว้าง และมีงบประมาณที่จำกัดกว่า หากตัดสินใจไม่ได้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมที่สุด

ปลูกผม DHI เพื่อเพิ่มความมั่นใจได้ที่ Hair Clinique by SLC

การปลูกผม DHI เป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่กำลังประสบปัญหาผมบาง ผมร่วง หรือศีรษะล้าน ที่ Hair Clinique by SLC เรามีทีมแพทย์ผู้มีความสามารถด้านเส้นผมและหนังศีรษะ พร้อมประสบการณ์มากกว่า 10 ปี และเทคโนโลยีทันสมัยที่จะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและตรงตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความหนาแน่น ปรับแนวไรผมใหม่ หรือแก้ไขปัญหาศีรษะล้าน ปรึกษาฟรีวันนี้เพื่อเริ่มต้นเส้นทางสู่ความมั่นใจที่กลับมาอีกครั้ง

แชร์บทความ

บทความที่เกี่ยวข้อง