ในปัจจุบันการปลูกผมที่เห็นผลได้จริง และได้มาตรฐาน มีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ
1. การปลูกผมเทคนิค FUT (Strip) เป็นวิธีการผ่าตัดปลูกถ่ายรากผมที่ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก เป็นการผ่าตัดเล็ก ที่มีหลักการในการใช้กล้องจุลทรรศน์ช่วยในการหั่นเส้นผมที่ได้จากบริเวณท้ายทอย หรือด้านข้างของหนังศีรษะ ซึ่งเป็นบริเวณที่เซลล์รากผมแข็งแรง ไม่มีการหลุดร่วงของเส้นผมในบริเวณนี้ และมีอายุขัยที่ยืนยาว นำผมที่มาได้มาปลูกใหม่ในบริเวณที่เกิดปัญหา สำหรับวิธีนี้จะเหมาะมากสำหรับผู้ที่ผมบางที่เกิดจากกรรมพันธุ์ วิธีนี้เป็นวิธีที่เห็นผลได้อย่างชัดเจน
Review ปลูกผมเทคนิค FUT
2. การปลูกผมเทคนิค FUE เป็นวิธีการย้ายเซลล์รากผมไปปลูกบริเวณที่ต้องการ โดยใช้หัวเจาะเล็กมากมีขนาดประมาณ 0.8 – 1.0 มิลลิเมตร เพื่อเจาะเอารากผมบริเวณท้ายทอยขึ้นมาด้วยความละเอียดประณีตสูง ไร้แผลเย็บ และสามารถนำเส้นขนจากบริเวณอื่นๆ ของร่างกาย เช่น หนวด เครา ขนหน้าอก โดยวิธีนี้จะมีรอยแผลที่ปรากฏมีขนาดเท่ารูขุมขน มีความเลือนลางแทบมองไม่เห็นแผล
Review ปลูกผมเทคนิค FUE
เทคนิค |
FUT (Strip) |
FUE (Follicular Unit Extraction) |
จำนวนกราฟต่อการปลูกในแต่ละครั้ง |
สามารถทำได้มากกว่า 2,000 กราฟ |
ไม่ควรทำเกิน 2,000 กราฟ |
คุณภาพของกราฟ |
เนื่องจากใช้วิธี Open technique ทำให้สามารถถนอมรากผมให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด |
ดีปานกลาง เนื่องจากเป็น Bling technique ที่ต้องใช้การคาดคะเนตำแหน่งของรากผมที่อยู่ใต้ผิวหนัง |
อัตราที่รากผมเกิดความเสียหายระหว่างการผ่าตัด (Transection rate) |
1 – 2 % |
3 – 6 % |
แผลเป็น |
ลักษณะแผลเป็นจะเป็นเส้นตรงบางๆ โดยจะมีเส้นผมงอกออกมาปกปิดแผลด้วย Trichophytic technique |
ลักษณะแผลจะเป็นจุดเล็กๆ กระจายรอยท้ายทอย |
ระยะเวลาในการทำ |
3-9 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟ |
ใช้เวลานานกว่าวิธี FUT |
ข้อบ่งชี้ในการทำ |
สามารถทำได้เกือบทุกกรณีของคนที่มีปัญหาผมล้าน ผมบาง |
เหมาะกับผู้ที่ต้องการปลูกผมจำนวนไม่มาก และต้องการไว้ผมสั้นมากหลังทำเสร็จ |